ในเมื่อไม่เปิดเผย นักวิเคราะห์จึงพยายามประเมินรายได้เฟซบุ๊กกันเอง ล่าสุดบริษัทวิจัยตลาดออนไลน์ eMarketer เชื่อว่าเครือข่ายสังคมรายใหญ่ที่สุดในโลกอย่างเฟซบุ๊ก (Facebook) สามารถทำรายได้รวมเกิน 4,270 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้ (2011) เพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัวเมื่อเทียบจากการประเมินในปี 2010 ที่พบว่ารายได้ของเฟซบุ๊กน่าจะอยู่ที่ 2,000 ล้านเหรียญ เฉพาะธุรกิจโฆษณาออนไลน์ Debra Aho Williamson หัวหน้าทีมนักวิเคราะห์จาก eMarketer ระบุว่าเฟซบุ๊ก มีแนวโน้มโกยรายได้จากวงการโฆษณาทั่วโลกเกินหลัก 3,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ถือเป็นตัวเลขประเมินที่สูงกว่า 1,860 ล้านเหรียญในปี 2010 ถึง 104% ซึ่งชัดเจนว่าธุรกิจโฆษณาออนไลน์จะกลายเป็นรายได้หลักของเฟซบุ๊กไปอีกหลายปี นักวิเคราะห์ของ eMarketer เชื่อว่าธุรกิจโฆษณาออนไลน์ของเฟซบุ๊กจะเติบโตต่อเนื่องเพราะคุณสมบัติใหม่ ที่เฟซบุ๊กจะพัฒนาขึ้นในอนาคต โดยเฉพาะการแสดงโฆษณาที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กไม่ต้องคลิกใดๆเพิ่มเติม ขณะเดียวกัน ความสามารถในการดึงดูดผู้ใช้ในวงกว้าง ก็ยิ่งทำให้เฟซบุ๊กมีแรงดึงดูดนักโฆษณามากกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม การศึกษาของ eMarketer พบว่าสัดส่วนธุรกิจโฆษณาออนไลน์ของเฟซบุ๊กนั้นกำลังลดลงเมื่อเทียบกับเม็ด เงินรายได้รวมทั้งหมด สาเหตุคือการปรับรูปแบบการให้บริการของเฟซบุ๊กเอง โดย ในปี 2009 การประเมินพบว่าเฟซบุ๊กมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจโฆษณาสูงถึง 95% (เมื่อเทียบจากรายได้รวมทั้งปี 2009) แต่สัดส่วนดังกล่าวลดลงเหลือ 89% ในปีนี้ ที่น่าสนใจคือ สัดส่วนรายได้จากโฆษณาที่ลดลงไม่ได้แปลว่าภาพรวมธุรกิจของเฟซบุ๊กตกต่ำลง แต่เป็นเพราะบริการอื่นของเฟซบุ๊กสามารถทำรายได้มากขึ้น จุดนี้ eMarketer พบว่ารายได้จากบริการเติมเงินสำหรับใช้กับเกมและแอปพลิเคชันบนเฟซบุ๊กหรือ Facebook Credits นั้นเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีทีท่าว่าจะเป็นอีกแหล่งรายได้สำคัญให้เฟซบุ๊กในอนาคต เฉพาะ Facebook Credits มีแนวโน้มว่าจะสามารถทำรายได้ให้เฟซบุ๊กมูลค่า 470 ล้านเหรียญในปีนี้ คิดเป็นสัดส่วนราว 11% ของรายได้รวม โดย 470 ล้านเหรียญนี้ขยายตัวก้าวกระโดดจาก 140 ล้านเหรียญในปี 2010 Credits หรือบริการเติมเงินของเฟซบุ๊กนั้นเป็นส่วนสำคัญของการให้บริการแอปพลิเคชัน แพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก โดยเฟซบุ๊กจะได้รับส่วนแบ่ง 30% จากการตัดสินใจซื้อสินค้าในแอปพลิเคชันหรือไอเท็มเกม (in-app transaction) ทุกครั้ง ลักษณะเดียวกับธุรกิจเกมสำหรับเครือข่ายสังคม Zynga ทั้งหมดนี้ eMarketer อธิบายว่าการประเมินรายได้บนเฟซบุ๊กนั้นใช้ข้อมูลจากบริษัทรวบรวมข้อมูลและ แหล่งวงใน สำหรับการประเมินเม็ดเงินในธุรกิจโฆษณาออนไลน์นั้นใช้ข้อมูลจากสถิติการใช้ งานของผู้ใช้เฟซบุ๊ก การใช้งานของนักโฆษณา ระบบอัตราโฆษณา และความประทับใจบนเฟซบุ๊ก ซึ่งยังไม่มีการยืนยันความถูกต้องจากปากผู้บริหารเฟซบุ๊กใดๆ ความเคลื่อนไหวล่าสุดของเฟซบุ๊กคือการเพิ่มความสามารถใน Facebook.com โดยปรับให้ระบบแสดงความเคลื่อนไหวใหม่หรือ News Feed สามารถ รองรับผู้ใช้งานที่ไม่ได้เข้า Facebook นาน ให้สามารถติดตามประเด็นสำคัญได้โดยเลือก Top Story ที่ต้องการแบบเจาะจง นอกจากนี้ยังเพิ่มคุณสมบัติใหม่ Ticker ที่สามารถแสดง ข้อมูลกิจกรรมล่าสุดที่เกิดขึ้นในกลุ่มเพื่อนได้แบบเรียลไทม์ โดยผู้ใช้สามารถแสดงความเห็นได้จากส่วน Ticker ชนิดไม่ต้องเปลี่ยนหน้าไปมา คาดว่ายักษ์ใหญ่เครือข่ายสังคมจะสามารถเข้าตลาดหลักทรัพย์หรือ IPO ได้ภายในปีหน้า บนตัวเลขมูลค่าตลาดสูงถึง 1 แสนเหรียญสหรัฐ Company Related Link : Facebook