ก่อนหน้านี้ ทางกูเกิ้ลได้ออกแอพฯ Voice Search ให้กับผู้ใช้แพลตฟอร์ม Android กันไปแล้ว ในขณะที่ Google Search app บน iOS เวอร์ชันปัจจุบันจะรองรับการป้อนคีย์เวิร์ดด้วยเสียงอยู่แล้ว แต่ Voice Search จะมีความสามารถที่เหนือกว่า โดยเทคโนโลยี Voice Search จะสามารถตีความภาษาพูดได้ แทนที่จะพูดเป็นคำๆ แบบคีย์เวิร์ด อย่างเช่น คุณสามารถถามได้ว่า What will the weather be like tomorrow? แทนที่จะพูดเป็นคีย์เวิร์ดว่า “weather forecast Bangkok” เป็นต้น ทั้งนี้ Voice Search ยังสามารถใช้ข้อมูลประกอบในการตีความ และให้คำตอบที่ถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้นได้อีกด้วย อย่างเช่น สถานที่ที่คุณอยู่ในขณะนั้น (current location) หรือวิเคราะห์บริบทของการเสิร์ขได้ เช่น “Where’s Spiderman Playing?” ซึ่งมันจะทราบได้ว่า คุณต้องการรู้รอบฉาย และโรงหนังที่อยู่แถวนั้น ของภาพยนตร์เรื่อง Spiderman
กูเกิ้ลยังกล่าวอีกด้วยว่า Voice Search จะมีความฉลาด (ไม่แพ้ Siri) โดยใช้ข้อมูลจาก Knowledge Graph ฐานความรู้ที่เชื่อมข้อมูลความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ เช่น เมื่อคุณค้นข้อมูลเกี่ยวกับ Da Vinci บน Google.com ตอนนี้ เสิร์ชเอ็นจิ้นจะรู้ว่า มันต้องหาผลงานต่างๆ อย่างเช่น ภาพเขียนโมนาลิซ่า และภาพเขียนต่างๆ ตลอดจนประวัติชีวิต Voice Search จะใช้ฐานข้อมูลนี้ในการวิเคราะห์คำถามของผู้ใช้ด้วย หากเทียบกับ Siri แล้ว Voice Search จะมีลักษณะการทำงานที่คล้ายกัน แต่ว่า มันสามารถรันบน iPhone รุ่นที่ต่ำกว่า iPhone 4 ทีไม่สามารถรัน Siri ได้ อย่างไรก็ตาม Voice Search จะแพ้ Siri ตรงที่ไม่สามารถเข้าถึงการสั่งรันแอพฯ ตารางนัดหมายในปฏิธิน บน iPhone ได้