ไมโครซอฟท์ บริษัทซอฟท์แวร์รายใหญ่ระดับโลก เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสล่าสุด ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยรายได้ ในไตรมาส ที่สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย. อยู่ที่ 1.601 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 8% ส่วนรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 5.31 พันล้านดอลลาร์ ร่วงลง 26% และผลกำไรอยู่ที่ 4.47 พันล้านดอลลาร์ หรือ 53 เซนต์ต่อหุ้น ซึ่งลดลง 22% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลประกอบการของไมโครซอฟท์ อยู่ในระดับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยคาดว่า รายได้จะอยู่ที่ 1.642 หมื่นล้านดอลลาร์ และผลกำไรต่อหุ้นจะอยู่ที่ 56 เซนต์ นายปีเตอร์ ไคลน์ ซีเอฟโอ ของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า ความต้องการพีซีที่ลดลง ก่อนที่จะมีการเปิดตัวระบบปฏิบัติการ Window 8 เป็นสาเหตุที่ทำให้รายได้จากการดำเนินงานของบริษัทลดลง ขณะที่นายสตีฟ บอลเมอร์ ซีอีโอไมโครซอฟท์ กล่าวว่า การเปิดตัวระบบปฏิบัติการ Window 8 ถือเป็นการเริ่มต้นยุคใหม่ของไมโครซอฟท์ การลงทุนที่บริษัทได้ทุ่มไปเป็นจำนวนมากในช่วงหลายปีนั้น กำลังจะกลับมาสร้างอนาคต ในด้านการบริการ และอุปกรณ์ที่มีความพิเศษ จึงเป็นโอกาสครั้งสำคัญของลูกค้า กลุ่มผู้พัฒนา และพันธมิตรทางธุรกิจบริษัท ด้านบริษัท กูเกิล อิงค์ เสิร์ชเอ็นจิ้นรายใหญ่ระดับโลก เผยว่า กำไรในไตรมาส 3 ปีนี้ ร่วงลงราว 20% สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุน และยังฉุดราคาหุ้นของบริษัทร่วงลงในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ด้วย รายได้สุทธิในไตรมาส 3 ปีนี้ของกูเกิล อยู่ที่ 2.18 พันล้านดอลลาร์ ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีที่แล้วที่ระดับ 2.73 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่รายได้โดยรวมอยู่ที่ 1.41 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 45% เมื่อเทียบเป็นรายปี