Sunday, December 22, 2024
20.9 C
Bangkok

HP ปรับโครงสร้างพร้อมปิดฉาก WebOS

HP , HP WebOS เอชพี (Hewlett-Packard) ปรับโครงสร้างบริษัทหนีตายในยุคไอทีแข่งดุ แย้มโครงการแยกธุรกิจพีซีออกมาตั้งเป็นบริษัทใหม่ (spin off) พร้อมตัดสินใจเลิกพัฒนาสินค้าตระกูล WebOS อย่างเป็นทางการ เผยต้องการลุยพัฒนาธุรกิจซอฟต์แวร์และบริการงานไอทีจริงจัง หลายฝ่ายมั่นใจเอชพีกำลังเดินตามไอบีเอ็มและหลายบริษัทที่แยกธุรกิจออกเพื่อ ขายกิจการ ความเคลื่อนไหวทั้งหมดที่เอชพีประกาศล่าสุดล้วนถูกวิจารณ์ว่าเอชพีกำลังดำเนินนโยบาย“ตีตัวออกห่างตลาดฮาร์ดแวร์คอนซูเมอร์” เพื่อหยั่งรากในตลาดซอฟต์แวร์และงานบริการไอทีให้มากขึ้น โดยเฉพาะการประกาศเตรียมตัวเข้าซื้อกิจการบริษัท Autonomy Corp. ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ค้นหาและจัดการไฟล์เอกสารสัญชาติอังกฤษ ยิ่งแสดงว่าเอชพีกำลังออกห่างธุรกิจสินค้าคอนซูเมอร์ที่กำไรน้อย เพื่อไปหาธุรกิจซอฟต์แวร์ที่กำไรดีกว่าแทน สำหรับผลประกอบการประจำไตรมาสเดือนเมษายน-มิถุนายนที่ผ่านมา เอชพีมีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นเพียง 1.5% เป็น 3.12 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ กำไรสุทธิ 1.93 พันล้านเหรียญ ***แยกธุรกิจพีซีเป็นบริษัทใหม่ การสปินออฟธุรกิจพีซีของเอชพีนั้นได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างมาก เนื่องจากเอชพีนั้นมีดีกรีเป็นผู้จำหน่ายคอมพิวเตอร์พีซีรายใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมียอดจำหน่ายมากกว่า 51 ล้านเครื่องต่อปี สิ่งที่น่าสนใจคือข้อความทวีตของซีอีโอเดลล์ “ไมเคิล เดลล์” ซึ่งประกาศประเด็นเสียดสีทำนองว่าธุรกิจพีซีที่เอชพีจะแยกออกไปเป็นบริษัท ใหม่นั้นไม่ใช่ธุรกิจพีซีของเอชพี แต่เป็นธุรกิจพีซีดั้งเดิมของคอมแพค (Compaq) ซึ่งอดีตซีอีโอเอชพี Carly Fiorina ตัดสินใจซื้อมาเมื่อปี 2002 การซื้อคอมแพคครั้งนั้นทำให้เอชพีก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ในตลาดพีซี เหนือกว่าเดลล์ (Dell) ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ที่มีอิทธิพลสูงในตลาดองค์กรธุรกิจ อย่างไรก็ตาม การสปินออฟครั้งนี้ทำให้เอชพีถูกวิจารณ์ว่าเป็นการเดินตามไอบีเอ็ม (IBM) ยักษ์ใหญ่สีฟ้าที่จำหน่ายธุรกิจพีซีให้เลอโนโวเพื่อที่ตัวเองจะได้หันไปลุย ตลาดบริการงานไอทีองค์กรมากขึ้น (ไอบีเอ็มนั้นจำหน่ายธุรกิจพีซีให้บริษัท Legend ผู้ผลิตพีซีสัญชาติจีนจนกลายเป็นแบรนด์ Lenovo ในปัจจุบัน แล้วเบนเข็มให้บริษัทพุ่งเป้าที่ตลาดซอฟต์แวร์และงานบริการไอทีจนเป็นเจ้า ตลาดในขณะนี้) แม้เอชพีจะยังไม่ประกาศจำหน่ายธุรกิจพีซี แต่การที่เอชพีระบุว่า กำลังจะเข้าซื้อบริษัทซอฟต์แวร์สัญชาติอังกฤษนามว่า Autonomy Corp ด้วยเงินมูลค่า 1.17 หมื่นล้านเหรียญ ก็ทำให้ชัดเจนมากว่า งานซอฟต์แวร์และบริการไอทีกำลังเป็นทิศทางสำคัญของเอชพีในอนาคต เพราะเอชพีเชื่อว่าความเชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์ค้นหาและจัดการไฟล์เอกสารของ Autonomy จะสามารถเพิ่มเขี้ยวเล็บให้เอชพีได้ในอนาคต ซึ่งจุดนี้มีการวิเคราะห์ว่ามูลค่าซื้อ Autonomy ที่เอชพีเสนอไปนั้นเหนือกว่าราคาหุ้นปกติถึงสามเท่าตัว อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนเชื่อว่าอาจเป็นเรื่องยากหากเอชพีต้องการขายกิจการพีซี จริง เนื่องจากการผลิตพีซีของแบรนด์ใหญ่ในปัจจุบันล้วนผูกขาดกับผู้ผลิตในไต้หวัน เป็นส่วนใหญ่ ทั้ง Apple, Dell และ Acer เอง ซึ่งยังไม่มีความแน่นอนว่าการสปินออฟธุรกิจพีซีของเอชพีจะออกหัวหรือก้อยใน อนาคต สำหรับไตรมาสที่เพิ่งจบไป ยอดรายรับจากธุรกิจพีซีภายใต้แผนก Personal Systems Group (PSG) นั้นมีมูลค่าตลาดราว 4.1 หมื่นล้านเหรียญ ทำกำไรให้เอชพีราว 2 พันล้านเหรียญต่อปี กินสัดส่วนเป็น 13% ของกำไรเอชพี ***เลิกผลิต TouchPad เอชพียืนยันว่าจะยุติการพัฒนาอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ webOS ทั้งหมด เท่ากับผู้บริโภคจะไม่ได้เห็นทั้งแท็บเล็ต TouchPad และสมาร์ทโฟน webOS แบรนด์เอชพีรุ่นใหม่แจ้งเกิดในตลาดนับจากนี้ ความเคลื่อนไหวนี้ตอกย้ำความความพ่ายแพ้ของ TouchPad แท็บเล็ตจากเอชพีที่ไม่สามารถทำยอดขายได้เท่าที่ควร ก่อนหน้านี้ เอชพีประกาศลดราคาจำหน่าย TouchPad ในสหรัฐฯลงครั้งแรก 50 เหรียญ ก่อนจะปรับลดอีกครั้ง 100 เหรียญ ทั้งหมดเป็นเพราะอาการ”ขายไม่ออก”ของ TouchPad ซึ่งยักษ์ใหญ่ผู้ค้าปลีกในสหรัฐฯอย่างเบสต์บาย (Best Buy) เคยออกมาประกาศว่ายอดขาย TouchPad ตั้งแต่เปิดตัวนั้นทำได้เพียง 25,000 เครื่อง จากในสินค้าคงคลังที่มีสูงถึง 270,000 เครื่อง ความล้มเหลวครั้งนี้ทำให้การตัดสินใจซื้อปาล์ม (Palm) ของเอชพีถูกนำกลับมาวิจารณ์อีกครั้ง แม้ในช่วงซื้อกิจการอดีตยักษ์ใหญ่โลกคอมพิวเตอร์มือถือ (PDA) เอชพีจะมองว่าระบบปฏิบัติการ WebOS ของปาล์มจะทำให้เอชพีขึ้นเป็นอันดับ 2 ในตลาดอุปกรณ์พกพาได้ แต่เมื่อเอชพีไม่สามารถขยายกลุ่มลูกค้าในวงกว้าง เอชพีจึงตัดสินใจยุติการพัฒนาก่อนจะขาดทุนมากกว่านี้ นักสังเกตการณ์คาดว่า ความเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้อาจเป็นสิ่งที่กรรมการบริหารของเอชพีตั้งใจไว้ ตั้งแต่แรก โดยเฉพาะการเลือกลีโอ อโปเธอร์เกอร์ (Léo Apotheker) อดีตลูกหม้อบริษัทซอฟต์แวร์อย่าง SAP มานั่งเก้าอี้ซีอีโอบริษัท ซึ่งทั้งหมด เอชพีคาดว่ากระบวนการปรับโครงสร้างบริษัทจะแล้วเสร็จในช่วง 12-18 เดือนนับจากนี้ สำหรับรายได้ทั้งปี 2011 เอชพีคาดว่ายอดจำหน่ายในไตรมาสที่เหลือของปีจะทำให้เอชพีมีรายได้ทะลุ 1.27 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากการประเมินก่อนหน้านี้ที่ 1.29-1.30 แสนล้านเหรียญ บนกำไรที่คาดว่าจะลดลงเหลือ 3.59-3.70 เหรียญต่อหุ้น จากเดิมที่เคยประเมินไว้ 4.27 เหรียญต่อหุ้น Company Related Link : HP

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
ลีโอ อโปเธอร์เกอร์ (Léo Apotheker) ซีอีโอคนปัจจุบันของเอชพี

เอชพี (Hewlett-Packard) ปรับโครงสร้างบริษัทหนีตายในยุคไอทีแข่งดุ แย้มโครงการแยกธุรกิจพีซีออกมาตั้งเป็นบริษัทใหม่ (spin off) พร้อมตัดสินใจเลิกพัฒนาสินค้าตระกูล WebOS อย่างเป็นทางการ เผยต้องการลุยพัฒนาธุรกิจซอฟต์แวร์และบริการงานไอทีจริงจัง หลายฝ่ายมั่นใจเอชพีกำลังเดินตามไอบีเอ็มและหลายบริษัทที่แยกธุรกิจออกเพื่อ ขายกิจการ ความเคลื่อนไหวทั้งหมดที่เอชพีประกาศล่าสุดล้วนถูกวิจารณ์ว่าเอชพีกำลังดำเนินนโยบาย“ตีตัวออกห่างตลาดฮาร์ดแวร์คอนซูเมอร์” เพื่อหยั่งรากในตลาดซอฟต์แวร์และงานบริการไอทีให้มากขึ้น โดยเฉพาะการประกาศเตรียมตัวเข้าซื้อกิจการบริษัท Autonomy Corp. ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ค้นหาและจัดการไฟล์เอกสารสัญชาติอังกฤษ ยิ่งแสดงว่าเอชพีกำลังออกห่างธุรกิจสินค้าคอนซูเมอร์ที่กำไรน้อย เพื่อไปหาธุรกิจซอฟต์แวร์ที่กำไรดีกว่าแทน สำหรับผลประกอบการประจำไตรมาสเดือนเมษายน-มิถุนายนที่ผ่านมา เอชพีมีรายได้สุทธิเพิ่มขึ้นเพียง 1.5% เป็น 3.12 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ กำไรสุทธิ 1.93 พันล้านเหรียญ ***แยกธุรกิจพีซีเป็นบริษัทใหม่ การสปินออฟธุรกิจพีซีของเอชพีนั้นได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างมาก เนื่องจากเอชพีนั้นมีดีกรีเป็นผู้จำหน่ายคอมพิวเตอร์พีซีรายใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งมียอดจำหน่ายมากกว่า 51 ล้านเครื่องต่อปี สิ่งที่น่าสนใจคือข้อความทวีตของซีอีโอเดลล์ “ไมเคิล เดลล์” ซึ่งประกาศประเด็นเสียดสีทำนองว่าธุรกิจพีซีที่เอชพีจะแยกออกไปเป็นบริษัท ใหม่นั้นไม่ใช่ธุรกิจพีซีของเอชพี แต่เป็นธุรกิจพีซีดั้งเดิมของคอมแพค (Compaq) ซึ่งอดีตซีอีโอเอชพี Carly Fiorina ตัดสินใจซื้อมาเมื่อปี 2002 การซื้อคอมแพคครั้งนั้นทำให้เอชพีก้าวกระโดดขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ในตลาดพีซี เหนือกว่าเดลล์ (Dell) ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ที่มีอิทธิพลสูงในตลาดองค์กรธุรกิจ อย่างไรก็ตาม การสปินออฟครั้งนี้ทำให้เอชพีถูกวิจารณ์ว่าเป็นการเดินตามไอบีเอ็ม (IBM) ยักษ์ใหญ่สีฟ้าที่จำหน่ายธุรกิจพีซีให้เลอโนโวเพื่อที่ตัวเองจะได้หันไปลุย ตลาดบริการงานไอทีองค์กรมากขึ้น (ไอบีเอ็มนั้นจำหน่ายธุรกิจพีซีให้บริษัท Legend ผู้ผลิตพีซีสัญชาติจีนจนกลายเป็นแบรนด์ Lenovo ในปัจจุบัน แล้วเบนเข็มให้บริษัทพุ่งเป้าที่ตลาดซอฟต์แวร์และงานบริการไอทีจนเป็นเจ้า ตลาดในขณะนี้) แม้เอชพีจะยังไม่ประกาศจำหน่ายธุรกิจพีซี แต่การที่เอชพีระบุว่า กำลังจะเข้าซื้อบริษัทซอฟต์แวร์สัญชาติอังกฤษนามว่า Autonomy Corp ด้วยเงินมูลค่า 1.17 หมื่นล้านเหรียญ ก็ทำให้ชัดเจนมากว่า งานซอฟต์แวร์และบริการไอทีกำลังเป็นทิศทางสำคัญของเอชพีในอนาคต เพราะเอชพีเชื่อว่าความเชี่ยวชาญด้านซอฟต์แวร์ค้นหาและจัดการไฟล์เอกสารของ Autonomy จะสามารถเพิ่มเขี้ยวเล็บให้เอชพีได้ในอนาคต ซึ่งจุดนี้มีการวิเคราะห์ว่ามูลค่าซื้อ Autonomy ที่เอชพีเสนอไปนั้นเหนือกว่าราคาหุ้นปกติถึงสามเท่าตัว อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์บางส่วนเชื่อว่าอาจเป็นเรื่องยากหากเอชพีต้องการขายกิจการพีซี จริง เนื่องจากการผลิตพีซีของแบรนด์ใหญ่ในปัจจุบันล้วนผูกขาดกับผู้ผลิตในไต้หวัน เป็นส่วนใหญ่ ทั้ง Apple, Dell และ Acer เอง ซึ่งยังไม่มีความแน่นอนว่าการสปินออฟธุรกิจพีซีของเอชพีจะออกหัวหรือก้อยใน อนาคต สำหรับไตรมาสที่เพิ่งจบไป ยอดรายรับจากธุรกิจพีซีภายใต้แผนก Personal Systems Group (PSG) นั้นมีมูลค่าตลาดราว 4.1 หมื่นล้านเหรียญ ทำกำไรให้เอชพีราว 2 พันล้านเหรียญต่อปี กินสัดส่วนเป็น 13% ของกำไรเอชพี ***เลิกผลิต TouchPad เอชพียืนยันว่าจะยุติการพัฒนาอุปกรณ์ระบบปฏิบัติการ webOS ทั้งหมด เท่ากับผู้บริโภคจะไม่ได้เห็นทั้งแท็บเล็ต TouchPad และสมาร์ทโฟน webOS แบรนด์เอชพีรุ่นใหม่แจ้งเกิดในตลาดนับจากนี้ ความเคลื่อนไหวนี้ตอกย้ำความความพ่ายแพ้ของ TouchPad แท็บเล็ตจากเอชพีที่ไม่สามารถทำยอดขายได้เท่าที่ควร ก่อนหน้านี้ เอชพีประกาศลดราคาจำหน่าย TouchPad ในสหรัฐฯลงครั้งแรก 50 เหรียญ ก่อนจะปรับลดอีกครั้ง 100 เหรียญ ทั้งหมดเป็นเพราะอาการ”ขายไม่ออก”ของ TouchPad ซึ่งยักษ์ใหญ่ผู้ค้าปลีกในสหรัฐฯอย่างเบสต์บาย (Best Buy) เคยออกมาประกาศว่ายอดขาย TouchPad ตั้งแต่เปิดตัวนั้นทำได้เพียง 25,000 เครื่อง จากในสินค้าคงคลังที่มีสูงถึง 270,000 เครื่อง ความล้มเหลวครั้งนี้ทำให้การตัดสินใจซื้อปาล์ม (Palm) ของเอชพีถูกนำกลับมาวิจารณ์อีกครั้ง แม้ในช่วงซื้อกิจการอดีตยักษ์ใหญ่โลกคอมพิวเตอร์มือถือ (PDA) เอชพีจะมองว่าระบบปฏิบัติการ WebOS ของปาล์มจะทำให้เอชพีขึ้นเป็นอันดับ 2 ในตลาดอุปกรณ์พกพาได้ แต่เมื่อเอชพีไม่สามารถขยายกลุ่มลูกค้าในวงกว้าง เอชพีจึงตัดสินใจยุติการพัฒนาก่อนจะขาดทุนมากกว่านี้ นักสังเกตการณ์คาดว่า ความเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้อาจเป็นสิ่งที่กรรมการบริหารของเอชพีตั้งใจไว้ ตั้งแต่แรก โดยเฉพาะการเลือกลีโอ อโปเธอร์เกอร์ (Léo Apotheker) อดีตลูกหม้อบริษัทซอฟต์แวร์อย่าง SAP มานั่งเก้าอี้ซีอีโอบริษัท ซึ่งทั้งหมด เอชพีคาดว่ากระบวนการปรับโครงสร้างบริษัทจะแล้วเสร็จในช่วง 12-18 เดือนนับจากนี้ สำหรับรายได้ทั้งปี 2011 เอชพีคาดว่ายอดจำหน่ายในไตรมาสที่เหลือของปีจะทำให้เอชพีมีรายได้ทะลุ 1.27 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจากการประเมินก่อนหน้านี้ที่ 1.29-1.30 แสนล้านเหรียญ บนกำไรที่คาดว่าจะลดลงเหลือ 3.59-3.70 เหรียญต่อหุ้น จากเดิมที่เคยประเมินไว้ 4.27 เหรียญต่อหุ้น Company Related Link : HP

อัพเดท! ก่อนใคร

เรื่องราวเจ๋งๆ ล้ำๆ สดใหม่ถึงคุณโดยตรงเพียงแค่กรอก Email ไว้เท่านั้น

รายละเอียดเงื่อนไขที่ privacy policy.

Hot this 48 hr.

ข่าวใหญ่ จีนค้นพบอารยธรรมที่เก่าแก่กว่าราชวงศ์เซี่ย ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีนักโบราณคดีคนไหนในโลกเชื่อว่าจีนจะมีอารยธรรมที่เก่าแก่กว่านี้อีกแล้ว

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว ไอทีเมามันส์ ทุกคน พบกันเป็นประจำเช่นเคยกับการอัพเดทข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจรอบโลก สำหรับครั้งนี้เราก็มีข่าวสำคัญจะมาแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบว่า ที่ประเทศจีนมีการค้นพบอารยธรรมที่เกิดขึ้นก่อนราชวงศ์เซี่ย ราชวงศ์แรกของจีนที่เกิดขึ้น 2,100...

ความหมายของไพ่ยิปซี ไพ่ทาโรต์ ไพ่ชุดเมเจอร์และไพ่ชุดไมเนอร์ อาร์คานา

ไพ่ทาโรต์ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ไพ่ชุดเมเจอร์ อาร์คานา มี 22...

AI ที่ดีที่สุดในการทำ Images to Video AI: เปรียบเทียบ Kling AI, Vidu AI, RunwayML และ Luma AI

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว การสร้างวิดีโอจากภาพนิ่ง (Images to Video) กลายเป็นเรื่องง่ายและน่าตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น หลาย...

มีอะไรใหม่ในด้านกล้องของ iPhone 16 (คาดการ)

iPhone 16 มาพร้อมกับการพัฒนาในด้านกล้องที่สำคัญ โดยมีเซนเซอร์ขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อการรับแสงที่ดีกว่า ช่วยให้ภาพถ่ายในที่แสงน้อยคมชัดและสดใสยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงระบบ Optical Zoom ให้ซูมได้ไกลขึ้นโดยไม่สูญเสียคุณภาพของภาพ...

น้องลิลลี่ แอร์โฮสเตสสาวสวย ตัวเล็ก น่ารัก ขาวออร่าหน้าตาตะมุตะมิชวนให้เคลิ้ม 

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว ไอทีเมามันส์ ทุกคน กลับมาพบกันเป็นประจำเช่นเคยกับการแนะนำให้รู้จักสาวสวยน่าติดตาม ในโพสต์นี้เราจะพาเพื่อนๆ มาสัมผัสความสวยเว่อร์อลังการของน้องลิลลี่ แอร์โฮสเตสสาวสวย ตัวเล็ก...

Topics

Microsoft Copilot Vision เพื่อนแท้แห่งการช้อปปิ้งช่วงเทศกาลสุดปัง!

ในยุคที่เทคโนโลยี AI กลายเป็นตัวช่วยสำคัญในชีวิตประจำวัน Microsoft Copilot Vision ก้าวเข้ามาเป็นเพื่อนแท้สำหรับการช้อปปิ้งในช่วงเทศกาลอย่างสมบูรณ์แบบ! สำหรับใครที่กำลังเตรียมลิสต์ของขวัญหรือมองหาสินค้าสุดคุ้ม เทคโนโลยีตัวนี้คือสิ่งที่คุณต้องการ Microsoft...

หลุดสเปค Galaxy S25 เพิ่ม พร้อมเผยความบางรุ่น S25 Slim ที่ต้องร้องว้าว!

Samsung Galaxy S25 รุ่นใหม่ล่าสุดที่กำลังจะเปิดตัวในปี 2024 มีข่าวลือและข้อมูลหลุดออกมาให้สาวกซัมซุงได้ตื่นเต้นกันแล้ว! ล่าสุดรายงานจาก TechRadar เปิดเผยว่าสเปคที่เพิ่มขึ้นในรุ่นนี้มีการพัฒนาทั้งด้านประสิทธิภาพและดีไซน์...

Samsung S95F OLED TV: อะไรที่เราคาดหวังกับทีวีรุ่นนี้?

Samsung S95F OLED TV เป็นทีวีรุ่นใหม่ที่หลายคนจับตามอง หลังจากที่ Samsung ทำตลาดทีวี OLED...

เจมส์ บอนด์ หนังแฟรนไชส์ชื่อดัง กำลังเจอวิกฤตใหญ่?

เมื่อพูดถึง "เจมส์ บอนด์" หลายคนคงนึกถึงสายลับอังกฤษสุดเท่ที่มีรหัส 007 กับวลีติดปากอย่าง “Bond... James Bond”...

Related Articles

Popular Categories

spot_img