นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจการพิมพ์และคอมพิวเตอร์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เอชพี กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กหรือกลุ่มโซโห-ไมโครบิส ตลอดจนเอสเอ็มบีรายย่อย (Small SMB) เป็นฐานของธุรกิจที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นความท้าทายต่อผู้ผลิตผู้ให้บริการในการเข้าสู่ฐานลูกค้ากลุ่มดังกล่าว เนื่องจากสภาวะการแข่งขันในปัจจุบันต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้น ทำให้มีแนวโน้มในความต้องการการใช้งานเครื่องพิมพ์ที่มีคุณภาพและให้ต้นทุนต่อแผ่นต่ำเพื่อลดค่าใช้จ่ายภายในองค์กรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัทเล็งเห็นโอกาสทางการตลาดดังกล่าว จึงมุ่งนำเสนอเทคโนโลยีตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าโดยรวมเอาคุณภาพงานพิมพ์และราคาที่จับต้องได้ไว้ด้วยกัน จากการสำรวจตลาดและผู้ใช้งานจริงในกลุ่มสถานศึกษาและธุรกิจขนาดเล็กทั้งโซโห (SOHO) ไมโครบิส (Micro-Biz) และเอสเอ็มบีรายย่อย (Small SMB) เอชพีมองว่ากลุ่มสถานศึกษามีความต้องการในการพิมพ์ปริมาณมาก แต่มักมีข้อจำกัดในเรื่องของงบประมาณ จึงต้องการเครื่องพิมพ์ที่มีราคาไม่แพง และมีต้นทุนการพิมพ์ต่อแผ่นต่ำ เพื่อให้สามารถบริหารจัดการงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้านธุรกิจขนาดเล็กนั้นต้องการงานพิมพ์คุณภาพ และมีข้อจำกัดในเรื่องของบุคลากรโดยเฉพาะด้านไอที เครื่องพิมพ์ที่ใช้จึงต้องเป็นเครื่องพิมพ์ที่มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างราบรื่นไม่ติดขัด นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้ใช้งานไม่ว่าจะภายในสถานศึกษาหรือในธุรกิจขนาดเล็ก ต่างประสบปัญหาจากการใช้เครื่องพิมพ์แบบหมึกแท๊งก์ เช่น หมึกพิมพ์ซึมเลอะเทอะ กระดาษติด เอกสารไร้คุณถาพ หัวพิมพ์อุดตัน ไปจนถึงชิ้นส่วนอุปกรณ์ชำรุด จนต้องคอยส่งซ่อมเป็นประจำ รวมถึงการดัดแปลงเครื่องพิมพ์ ที่ส่งผลกระทบต่ออายุการรับประกันเครื่อง เป็นต้น ปัญหาต่างๆ ที่เกิดจากเครื่องพิมพ์แบบหมึกแท๊งก์นี้ ล้วนก่อนให้เกิดต้นทุนแฝง ทางธุรกิจ เนื่องจากผู้บริหารสถานศึกษาหรือธุรกิจขนาดเล็ก ต้องเสียเวลาของทรัพยากรบุคคลในการจัดการเครื่องพิมพ์ รวมทั้งสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายไปกับการซ่อมแซมเครื่องพิมพ์แบบหมึกแท๊งก์ ส่งผลธุรกิจสะดุดหรือหยุดชะงักขณะต้องการงานพิมพ์ ล่าสุด เอชพีเปิดตัวเครื่องพิมพ์รุ่นล่าสุด HP Deskjet Ink Advantage รุ่น 2520hc All-in-One และรุ่น 2020hc ที่สามารถพิมพ์งานได้มากถึง 1,500 แผ่น ต่อหมึกพิมพ์เพียงตลับละ 350 บาท เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ที่จะช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายให้กับธุรกิจ และยังช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงานภายใน โดยเอชพีพร้อมลุยแผนการตลาดในการทำตลาดเครื่องพิมพ์ HP Deskjet Ink Advantage โดยเน้นการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องของปัญหาและค่าใช้จ่ายแอบแฝงที่เกิดจากเครื่องพิมพ์แบบหมึกแท๊งก์ และสร้างการรับรู้ต่อผลิตภัณฑ์ Ink Advantage ในกลุ่มเป้าหมาย ผ่านการสื่อสารครบวงจรทั้ง ภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ การประชาสัมพันธ์ การสื่อสารการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ โปรโมชั่น และโรดโชว์ ที่สำคัญ คือการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อเข้าสู่กลุ่มร้านค้ารีเทลที่ขายเครื่องพิมพ์หมึกแท๊งก์โดยเฉพาะ เครื่องพิมพ์ HP Deskjet Ink Advantage รุ่น 2520hc All-in-One และ รุ่น 2020hc สองรุ่นใหม่นี้เป็นเครื่องพิมพ์อเนกประสงค์ เหมาะสำหรับสถานศึกษาและออฟฟิศขนาดเล็ก โดย HP Deskjet Ink Advantage รุ่น 2520hc All-in-One มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ครบครัน ทั้งพิมพ์ สแกน และทำสำเนา และ HP Deskjet Ink Advantage รุ่น 2020hc เน้นการใช้งานด้านการพิมพ์เป็นหลัก โดยมีจุดเด่นด้านปริมาณงานพิมพ์ที่สูงถึง 1,500 แผ่น ในราคาที่คุ้มค่า โดยเสียค่าใช้จ่ายเพียงแค่ 350 บาทต่อหมึกพิมพ์ 1 ตลับ ให้ต้นทุนเพียง 23 สตางค์ต่อแผ่น.