ได้ฤกษ์ลุยตลาดประเทศไทย หัวเว่ยจับมือเวลเทคกรุ๊ป ขายสมาร์ทดีไวซ์ ประเดิมด้วยมือถือ 3 รุ่นกับแท็บเล็ต 1 รุ่น มั่นใจด้วยคุณภาพและราคาที่จับต้องได้ และชื่อเสียงระดับโลก น่าจะได้รับการต้อนรับจากผู้บริโภคชาวไทย นายถู หมิง ผู้อำนวยการ ฝ่ายธุรกิจดีไวซ์ (Device Business) บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) กล่าวว่า เมื่อ วันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา หัวเว่ย ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงให้ บริษัท เวลเทคกรุ๊ป (WTG) เป็นตัวแทนจัดจำหน่าย หัวเว่ยสมาร์ทดีไวซ์ในประเทศไทย (Huawei Smart Device Distributor) โดย เวลเทคกรุ๊ป ถือเป็นผู้แทนจำหน่ายที่มีประสบการณ์ด้านการจัดจำหน่ายสินค้าไอทีมากว่า 25 ปี และเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าไอทีแนวหน้าของไทย สาเหตุที่หัวเว่ยเข้ามาทำตลาดดีไวซ์ในไทยครั้งนี้เนื่องจาก เล็งเห็นว่าตลาดดีไวซ์ไทยเป็นตลาดที่มีความสำคัญและมีการเติบโตอย่างต่อ เนื่อง หลังจากหัวเว่ยเข้ามาทำตลาดอุปกรณ์โครงข่ายโทรคมนาคมในประเทศไทยมากว่า 10 ปี ทั้งนี้หัวเว่ยพร้อมที่จะรับฟังความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย เพื่อพัฒนาและนำเสนอสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตคุณภาพสูง รวมทั้งแอปพลิเคชั่นใหม่ให้ตรงกับความต้องการของตลาดภายใต้สโลแกน ‘Let’s Simply Share’ นายสุวิทย์ ชัยกิจพัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวลเทคกรุ๊ป (WTG) กล่าวว่า บริษัทมีเชื่อมั่นในแบรนด์หัวเว่ย เนื่องจากเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมที่อยู่เบื้องหลังผู้ประกอบการโทร คมนาคมระดับโลก โดยเครือข่ายโทรคมนาคมในโลก 1 ใน 3 เป็นอุปกรณ์ที่ผลิตจากหัวเว่ย ปีที่ผ่านมาหัวเว่ยมีรายได้ถึง 10 ล้านล้านเหรียญฯ และปัจจุบันหัวเว่ยได้ก้าวสู่ผู้ผลิตดีไวซ์อันดับ 5 ของโลก ซึ่งเป็นหลักประกันคุณภาพและความน่าเชื่อถือในระดับสากลของหัวเว่ย เบื้องต้น WTG เป็นตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์เมือถือแบรนด์หัวเว่ยนำร่องจำนวน 3 รุ่น คือ GAGA, IDEOS X3 และ IDEOS X5 ซึ่งเป็นระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ 2.3 โดยมีราคาจับต้องได้ทั้งหมดรวมทั้งแท็บเล็ต 1 รุ่น ทั้งนี้ WTG จะกระจายดีไวซ์แบรนด์หัวเว่ยทั้ง 4 รุ่นไปยังดีลเลอร์โทรศัพท์มือและไอที ในสังกัดทั่วประเทศจำนวนกว่า 1,700 แห่ง ประกอบด้วย ดีลเลอร์มือถือเช่น เจมาร์ท ทีจี บลิสเทล และดีลเลอร์ไอทีเช่น บานาน่าไอที และ คอมเซเว่น โดยปัจจุบัน WTG มียอดขายสินค้าแบรนด์ต่างๆประมาณ 2-3 หมื่นเครื่องต่อเดือน ‘เรามั่นใจว่าสินค้าแบรนด์หัวเว่ยจะได้รับการตอบรับเป็น อย่างดี เพียงแต่ช่วงเริ่มต้นจะต้องให้ผู้บริโภค และดีลเลอร์ได้สัมผัสสินค้าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับแบรนด์ แต่เชื่อว่าจะใช้ระยะเวลาไม่นานนักเพราะสินค้าแบรนด์หัวเว่ย มีคุณภาพ การใช้งานเสถียร และอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบทำจากวัสดุคุณภาพสูง ที่สำคัญราคายังสามารถจับต้องได้ เพราะตั้งราคาเหมาะกับกำลังซื้อคนไทย’ นายสุวิทย์กล่าวว่า แม้ปัจจุบันตลาด ดีไวซ์ในไทยจะมีการแข่งขันสูงแต่ก็มีผู้ผลิตอุปกรณ์ดีไวซ์เพียงไม่กี่รายใน ตลาด ซึ่งหัวเว่ยมีโอกาสที่จะขยับมาอยู่แถวหน้าได้ไม่ยากเพราะมีความโดดเด่นด้าน คุณภาพและยังสามารถควบคุมราคาได้เป็นอย่างดีเพราะมีต้นทุนในการผลิตต่ำกว่า ผู้ประกอบการรายอื่นซึ่งส่วนใหญ่ผลิตและใช้ชิ้นส่วนของหัวเว่ยด้วยเช่นกัน ฉะนั้นเชื่อได้ว่ากลางปีหน้าชื่อเสียงของหัวเว่ยดีไวซ์จะเป็นที่รู้จักอย่าง แน่นอน Company Related Link : Huawei