ช่วงนี้โลก EV กำลังบูมแบบสุด ๆ เพราะค่ายรถหลายเจ้าก็ลงทุนกันเต็มที่ เรื่องเทคโนโลยีและระบบชาร์จนี่ถือเป็นปัจจัยสำคัญมาก ๆ ในการตัดสินใจซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเร็วในการชาร์จ ระยะทางการขับขี่ หรือสถานีชาร์จที่ครอบคลุม ล่าสุดแบรนด์เกาหลียักษ์ใหญ่อย่าง Hyundai กำลังออกหมัดเด็ดให้กับลูกค้า EV ของตัวเอง นั่นคือ “แจกฟรี NACS Adapter” ตั้งแต่ปีหน้า! ความเคลื่อนไหวนี้ก็น่าจะช่วยให้คนที่เป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า Hyundai ในสหรัฐฯ ได้สะดวกสบายขึ้นอีกเยอะ แถมยังบอกเป็นนัย ๆ อีกด้วยว่าพวกเขาอาจเดินตามรอย GM, Ford, Volvo, และค่ายอื่น ๆ ที่เริ่มเปิดรับ Tesla’s North American Charging Standard (NACS) กันมากขึ้น
แต่ก่อนจะเจาะลึกกันว่า Free Adapter จาก Hyundai มันเจ๋งยังไง เรามาทำความเข้าใจกันนิดนึงเกี่ยวกับ NACS และมาตรฐานชาร์จต่าง ๆ ในวงการ EV อย่าง CCS (Combined Charging System) ซึ่งเป็นมาตรฐานหลักในหลายประเทศ รวมถึงในอเมริกาเหนือด้วยนะ แต่ Tesla เขาขอใช้หัวชาร์จเป็นเอกเทศ เรียกว่า NACS ทำให้คนที่ใช้รถ Tesla สามารถเข้าถึงเครือข่าย Supercharger ที่ขึ้นชื่อว่ามีจำนวนและความเสถียรสูงมาก งานนี้พอ Hyundai กระโดดมาร่วมแจก NACS Adapter ฟรี จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าผู้ใช้รถ Hyundai จะสามารถชาร์จในเครือข่าย Supercharger ได้ง่ายขึ้น เช่นเดียวกับค่ายที่ประกาศไปก่อนหน้าทั้ง GM, Ford, Volvo, Polestar ฯลฯ ที่เซ็นข้อตกลงร่วมกับ Tesla
Hyundai ทำไมใจดีจัง?
ตอนนี้ Hyundai เองก็ถือไพ่สำคัญอยู่หลายใบ เพราะนอกจากจะแบรนด์แข็งแรงในตลาด EV แล้ว เขายังมีรถยอดฮิตอย่าง Ioniq 5, Ioniq 6 และโมเดลอื่น ๆ ภายใต้เครือเดียวกัน เช่น Kia และ Genesis ซึ่งบางรุ่นได้รับคำชมด้านประสิทธิภาพการชาร์จและดีไซน์ทันสมัยสุด ๆ จุดแข็งใหญ่ ๆ อย่างหนึ่งของ Hyundai คือเทคโนโลยีการชาร์จแบบ 800V ในบางรุ่น ทำให้ชาร์จเร็วได้ในระดับที่แข่งขันกับ Tesla ได้แบบไม่อายใคร
แต่ปัญหาก็คือ สถานีชาร์จ CCS ในสหรัฐฯ แม้จะมีให้ใช้กว้างขวาง แต่มันไม่ได้เยอะเหมือน Tesla Supercharger ที่ครอบคลุมเมืองสำคัญ ๆ ทั่วอเมริกา แถมระบบ Tesla ก็ขึ้นชื่อว่าปล่อยพลังไฟเสถียรกว่า น้อยครั้งที่จะเจอหัวชาร์จเสียหรือสถานีใช้การไม่ได้ จุดนี้เองที่ Hyundai เลยเสนอแจกอะแดปเตอร์ NACS ให้ลูกค้า EV ฟรี ๆ ไปเลยในปีหน้า คาดว่าเริ่มต้นปี 2024 เป็นต้นไป ใครเป็นเจ้าของ Hyundai EV ก็เตรียมตัวรับ Adapter ช่วยให้ชาร์จได้กว้างขึ้น ทั้งเครือข่าย CCS ที่เคยมี กับเครือข่าย NACS ของ Tesla
NACS Adapter ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นจริงไหม?
ลองนึกภาพว่าเรากำลังขับ Ioniq 5 อยู่บนไฮเวย์ แล้วแอปบอกว่าสถานี CCS ใกล้ที่สุดเกิดมีช่องว่างเหลือไม่มาก หรืออยู่ไกลไป บางทีเจอเสียอีกต่างหาก แต่เราเห็น Supercharger อยู่ใกล้ ๆ แล้วก็มีหัวชาร์จว่างเพียบ ถ้าเราไม่มีอะแดปเตอร์ เราก็ต้องไปหาปั๊ม CCS ต่ออยู่ดี แต่ถ้ามี NACS Adapter เราก็เลี้ยวเข้าหัวชาร์จของ Tesla ได้เลย ไม่ต้องมานั่งกังวลว่า “เฮ้ย เราจะเสียบได้ไหมนะ” ถือเป็นการขยายอิสระและความยืดหยุ่นให้นักเดินทางแบบสุด ๆ
อีกประเด็นหนึ่งคือ Tesla Supercharger มักถูกพูดถึงในแง่ของ reliability หรือความน่าเชื่อถือ อาจไม่ได้เพอร์เฟกต์ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ชื่อเสียงเค้าก็ขึ้นชื่อว่าปัญหาน้อย แล้วก็รองรับกำลังวัตต์สูงในหลายพื้นที่ ฉะนั้น ใครที่ถือ NACS Adapter อยู่ก็เหมือนได้บัตรผ่าน ใช้ประโยชน์จากเครือข่าย Tesla ได้ในระดับน่าพอใจเลยนะ
ทำไมค่ายอื่นก็หันมาสนใจ NACS?
เราจะเห็นว่า GM, Ford, Volvo, Polestar และอีกหลาย ๆ ค่าย ก็เริ่มบอกว่า รุ่นรถในอนาคต (เช่น ปี 2024-2025 เป็นต้นไป) จะหันมาใช้พอร์ต NACS กันถ้วนหน้า บางค่ายเซ็นข้อตกลงกับ Tesla ว่าจะฝังหัว NACS เป็นมาตรฐานในรถไปเลย ซึ่งเหตุผลมันก็หนีไม่พ้นเรื่อง “จำนวนสถานีชาร์จ Tesla Supercharger” ที่มีมากกว่าเครือข่ายอื่นในหลายพื้นที่ ตรงนี้ก็ทำให้คนซื้อรถอุ่นใจขึ้นเยอะ เพราะภาพเดิม ๆ คือบางคนกลัวว่า ถ้าซื้อรถ EV ที่ไม่ใช่ Tesla จะหาปลั๊กชาร์จยากหรือเปล่า แต่นี่พอมี NACS Adapter หรือมีพอร์ตที่รองรับ NACS ไปเลย ก็เท่ากับว่าไปเที่ยวไหนก็เจอสถานีที่เชื่อถือได้ในระดับสูง
ในกรณีของ Hyundai เค้าก็อาจไม่ได้บอกชัดเจนว่าจะเปลี่ยนพอร์ตเป็น NACS เลยทุกคันมั้ย แต่การแจกฟรี Adapter ให้ลูกค้าปัจจุบัน ก็ถือเป็นสัญญาณใหญ่แล้วว่าเขาไม่ได้จะอยู่เฉย ๆ ในสงครามมาตรฐานชาร์จ EV แถมยังเป็นการบอกกลาย ๆ ว่า ใครที่ลังเลอยู่ว่าซื้อ Ioniq 5 หรือ Ioniq 6 ดีมั้ย จะชาร์จที่ไหนบ้าง ไม่ต้องห่วงแล้วนะ เพราะเราก็มีตัวช่วยเชื่อมไปใช้ Supercharger ได้ง่าย ๆ เหมือนกัน
ความท้าทายของตลาด EV ในอนาคต
แม้ว่าเรื่องพอร์ตชาร์จอาจดูเป็นประเด็นเทคนิคัล แต่มันสำคัญมากในเชิงกลยุทธ์ของค่ายรถ เพราะใครที่มีเครือข่ายชาร์จรองรับได้ดี รถก็ขายง่ายขึ้น ยิ่งตลาดสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในสมรภูมิใหญ่ของ EV ถ้าค่ายไหนไม่ตามเทรนด์หรือไม่มีโซลูชันมัดใจลูกค้า อาจพลาดโอกาสเติบโตไปเลย
อีกสิ่งที่ต้องจับตาคือ Hyundai เองก็ลงทุนพัฒนาสถานีชาร์จของตัวเองเช่นกัน ทั้งร่วมมือกับ Electrify America หรือเครือข่ายอื่น ๆ เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือกชาร์จหลายแบบ แต่ยังไงก็แล้วแต่ Tesla Supercharger ก็มีชื่อชั้นเหนือกว่าจริง ๆ ทั้งในแง่จำนวนและชื่อเสียงเรื่อง reliability
อนาคต EV ของ Hyundai: ดัน Ioniq Series และรถรุ่นใหม่
Hyundai ไม่ได้หยุดอยู่แค่ Ioniq 5 หรือ Ioniq 6 แน่นอน เพราะเขาตั้งใจจะเข็นรถยนต์ไฟฟ้าอีกหลายรุ่นออกมา อย่างล่าสุดก็มีข่าวเตรียมเปิดตัว Ioniq 7 ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อเข้าตลาด SUV ไซส์ใหญ่ ตอบโจทย์ครอบครัวหรือคนที่ชอบรถอเนกประสงค์ นอกจากนี้ยังมีแผนร่วมมือกับ Kia และ Genesis เพื่อแชร์เทคโนโลยีกัน พัฒนาแพลตฟอร์ม E-GMP (Electric-Global Modular Platform) ซึ่งมีหัวใจหลักคือระบบไฟฟ้าแรงดันสูง (800V) จ่ายพลังชาร์จได้เร็วปรี๊ด
สิ่งที่น่าสนใจคือ ถ้า Hyundai ติดตั้ง NACS พอร์ตมาในรถรุ่นอนาคตเลย จะสามารถสู้ Tesla แบบเต็มตัวได้ไหม เพราะต้องไม่ลืมว่า Tesla มี ecosystem ของตัวเองค่อนข้างแข็งทั้งในแง่ซอฟต์แวร์ การอัปเดตแบบ OTA (Over-The-Air) และแพลตฟอร์มชาร์จที่ผูกกับระบบ Vehicle-to-Infrastructure อีกด้วย ทว่า Hyundai ก็ดูเอาจริงไม่น้อย เพราะนอกจากจะพัฒนาตัวรถแล้ว ก็ยังมีโครงการเกี่ยวกับระบบ Smart Charging และรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นสูง ๆ ที่เจาะลูกค้าพรีเมียม
ช่วงชิงมาตรฐานชาร์จ: ใครจะครองแชมป์?
ก่อนหน้านี้มาตรฐาน CCS (Combined Charging System) ถือเป็นตัวหลักในตลาดยุโรปและอเมริกาเหนือ แต่ Tesla กลับมาพร้อม NACS ที่บางคนบอกว่าใช้ง่ายกว่า หัวชาร์จเล็กกว่า แถมเสถียรกว่าในหลาย ๆ กรณี ที่สำคัญคือเครือข่าย Supercharger นั้น “พร้อมใช้” ตั้งแต่ไหนแต่ไร ทำให้ผู้ขับขี่ Tesla สบายใจว่าไม่ต้องไปจอดรอสถานีเสียหรือเจอเครื่องชาร์จรวนเป็นประจำ
พอ Elon Musk เปิดดีลกับ GM, Ford และต่อด้วยค่ายอื่น ๆ สถานะของ NACS เลยเริ่มสั่นคลอน CCS อยู่ไม่น้อย เห็นได้ชัดว่าค่ายรถกำลังเทใจมาทาง NACS กันมากขึ้น เพราะอยากให้ลูกค้ามีทางเลือกการชาร์จมากที่สุด งานนี้ Hyundai เองก็ไม่ยอมตกเทรนด์ แม้จะยังไม่ประกาศเปลี่ยนพอร์ตเป็น NACS ทั้งหมด แต่การแจกอะแดปเตอร์ฟรีก็ไม่ต่างจากการจับมือกันกลาย ๆ ว่า “เอาด้วยคน” ชนิดที่ไม่ทิ้งลูกค้าให้โดดเดี่ยว
ลูกค้า Hyundai ได้อะไรบ้างจากการแจกฟรีครั้งนี้?
แน่นอนว่าได้ความสบายใจแบบเห็น ๆ เพราะ
- ไม่ต้องเสียเงินซื้ออะแดปเตอร์เอง: ราคาของ NACS Adapter ในตลาดก็ใช่ถูก ๆ บางทีเป็นร้อยเหรียญดอลลาร์ หรือหลายพันบาทเลยทีเดียว พอ Hyundai แจกฟรีให้กับคนที่เป็นเจ้าของ EV ก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้โข
- ใช้งาน Supercharger ได้ใกล้เคียงกับผู้ใช้ Tesla: แม้ว่าบางฟีเจอร์อาจยังไม่สมบูรณ์แบบ 100% เทียบเท่าคนใช้ Tesla โดยตรง แต่ก็ถือว่า Hyundai EV จะสามารถเข้าถึงสถานีชาร์จที่รวดเร็วและกระจายตัวมากที่สุดในสหรัฐฯ ได้อีกหนึ่งช่องทาง
- เพิ่มมูลค่ารถในตัว: หากวันใดคิดจะขายต่อ รถ EV ที่รองรับการชาร์จได้ทั้ง CCS และ NACS ก็จะดูมีภาษีกว่า เพราะคนซื้อรายต่อไปก็ยังสบายใจว่า “ขับไปไหนก็น่าจะมีที่ชาร์จรองรับ”
- เปิดตลาดคนที่ลังเลจะซื้อ Hyundai EV: มีลูกค้าอีกกลุ่มที่เดิมทีอาจเทใจให้ Tesla เพราะติดเรื่องเครือข่ายชาร์จ แต่พอ Hyundai แก้โจทย์ให้เรียบร้อย ปลดล็อกด้วย Adapter ฟรีแบบนี้ โอกาสขายของ Hyundai ก็เพิ่มขึ้น
สรุปภาพรวม
การแจกฟรี NACS Adapter ของ Hyundai ตั้งแต่ปีหน้า นับเป็นอีกก้าวที่ช่วยกระจายความสะดวกให้ผู้ใช้ EV ในสหรัฐฯ แบบเต็ม ๆ เพราะ Tesla Supercharger ยังคงเป็นเครือข่ายที่แข็งแกร่ง และเป็นที่พึ่งพาสูงสำหรับเหล่าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ไม่ใช่แค่ความไวในการชาร์จ แต่รวมถึงความเสถียรและจำนวนสถานีที่มีอยู่ล้นเหลือ ในขณะที่ CCS ก็ยังคงเป็นมาตรฐานหลักที่มีผู้ใช้อยู่พอสมควร เหมือนการให้เรามี “สองพอร์ตสองโลก” ในรถคันเดียวกันนั่นแหละ
ใครที่เป็นแฟน Hyundai หรือกำลังจะถอย Ioniq 5, Ioniq 6 ก็อาจรู้สึกแฮปปี้มากขึ้น เพราะปีหน้าได้รับ Adapter ฟรีไปเลย ไม่ต้องควักกระเป๋าเพิ่ม ส่วนอนาคตจะมีการเปลี่ยนพอร์ตให้รถรุ่นใหม่เป็น NACS โดยตรงเลยมั้ย อันนี้ก็ต้องรอดูการประกาศอย่างเป็นทางการของ Hyundai อีกที แต่ที่แน่ ๆ ค่ายอื่น ๆ ก็เริ่มเทใจให้ NACS กันมากขึ้นเรื่อย ๆ เราอาจได้เห็นภาพโลก EV ที่มีเครือข่ายชาร์จเชื่อมกันกว้างขึ้นและเป็นมาตรฐานเดียวกันในบางมุม ซึ่งคนใช้รถก็น่าจะได้ผลประโยชน์เต็ม ๆ เพราะเดินทางสะดวกขึ้น ไม่ต้องคอยมาสับสนเรื่องหัวชาร์จอีกต่อไป
สุดท้ายแล้ว นี่คือการตอกย้ำว่าในสงครามการขยายตลาดรถยนต์ไฟฟ้า “ใครมีเครือข่ายชาร์จมากกว่า ชนะ!” เมื่อ Hyundai แจก NACS Adapter ฟรี ก็น่าจะชักชวนคนให้กล้าเปลี่ยนรถจากเครื่องยนต์สันดาปมาเป็นรถไฟฟ้าได้มากขึ้น แถมยังสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าเก่าไม่หนีไป Tesla ได้อีกด้วย เรียกว่าปล่อยหมัดคู่ออกมาสวย ๆ รอฟังต่อไปว่า ในปี 2024 ข้างหน้า Hyundai จะมีแคมเปญหรืออัปเดตอะไรใหม่ ๆ อีก และการร่วมมือกันระหว่างค่ายต่าง ๆ กับ Tesla จะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรม EV ระดับไหน เพราะท้ายที่สุดแล้ว คนที่ได้ประโยชน์ไปเต็ม ๆ คือผู้ใช้งานรถไฟฟ้าทุกคนนั่นเอง