ล่าสุดทาง แอปเปิ้ล (Apple) ได้ออกมายอมรับถึงความรุนแรงที่พบในบั๊กดังกล่าว พร้อมทั้งแนะผู้ใช้ให้ใช้บริการ iMessage ของ Apple ในการส่งข้อความแทน SMS โดยอ้างว่า บริการดังกล่าวสามารถทวนสอบแอดเดรสของผู้ส่ง เพื่อช่วยให้ป้องกันการถูกหลอกได้ ฟังดูเป็นการแก้ปัญหาที่ง่ายไปหน่อยจนทำให้อดสงสัยไม่ได้ว่า แอปเปิ้ลกำลังพยายามผลักดันให้บริการ iMessage ของบริษัทเกิดการใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น หรือได้รับความนิยมใช้มากกว่า SMS อย่างไรก็ตาม บริการ iMessage จะมีข้อจำกัดทีว่า มันสามารถใช้ส่งข้อความหากันระหว่างผู้ใช้ iPhone, iPad หรือ iPod Touch ที่รัน iOS 5 ขึ้นไปเท่านั้น อ้างอิงข้อมูลจาก Apple ยังเปิดเผยอีกว่า การปลอมตัวผู้ส่ง SMS ถือเป็นช่องโหว่ทีมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ ซึ่งมันสามารถเกิดขึ้นได้กับมือถือทุกเครื่อง และไม่ใช่เฉพาะอุปกรณ์ iOS เท่านั้น เพียงแต่แฮคเกอร์ที่สาธิตช่องโหว่ดังกล่าวเลือกใช้อุปกรณ์ iOS ในการสาธิตเท่านั้น จากข้อความนี้ จึงดูเหมือน Apple จะบอกว่า มันไม่มีวิธีใดแล้วที่สามารถป้องกันการปลอมผู้ส่ง SMS ก็เลยต้องเลือกใช้ทางที่ปลอดภัยกว่าด้วยการแนะให้ใช้ iMessage ของทางบริษัทแทน อย่างไรก็ตาม ทางด้านแฮคเกอร์ที่สาธิตช่องโหว่ SMS กล่าวว่า การปลอมชื่อผู้ส่ง หรือให้ตอบกลับ “reply to” ไม่ได้เกิดขึ้นได้กับสมาร์ทโฟนทุกเครื่อง ซึ่งตามปกติระบบควรจะแสดงชื่อผู้ส่ง และ reply to ได้พร้อมกัน เพื่อให้จับสังเกตได้ว่า มันอ้างอิงชื่อ หรือหมายเลขเดียวกัน