สวัสดีคอไอทีทุกคน วันนี้เรามีข่าวใหญ่จะมาแจ้งให้ทุกท่านได้ทราบว่า ล่าสุด Lenovo ได้ทุ่มเงิน 5 แสนล้านบาท พลิกโฉมธุรกิจ มุ่งวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ รองรับ Metaverse Lenovo แล้ว ซึ่งรายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เรามาติดตามกันเลย
สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ดังนี้
- รู้หรือไม่ว่า Lenovo ครองส่วนแบ่งตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือ PC มากที่สุดในโลกนับตั้งแต่ปี 2013 แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า นอกจากตลาดคอมพิวเตอร์แล้ว Lenovo ยังวางแผนตีตลาดเทคโนโลยีอื่น ๆ ด้วย
- ล่าสุด Lenovo ประกาศทุ่มเงินสำหรับการวิจัยและพัฒนา กว่า 100,000 ล้านหยวน (526,500 ล้านบาท) ตลอด 5 ปีข้างหน้า เพื่อพลิกธุรกิจจากอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงแทน
- ทาง Yang Yuanqing ซึ่งเป็น CEO ของบริษัท เปิดเผยว่า แผนดังกล่าวจะเริ่มต้นในปีงบประมาณใหม่ของบริษัท หรือวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา
- ซึ่งก็สอดคล้องกับที่ Yang Yuanqing ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Nikkei Asia เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้วว่า Lenovo จะทุ่มเงินอีกเท่าตัวให้กับการวิจัยและพัฒนาในช่วง 3 ปีข้างหน้า
- และหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ Lenovo หันมาทุ่มเงินให้กับการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เร็วขึ้นก็เพราะว่า โควิดเป็นตัวเร่งให้โลกเปลี่ยนแปลงจากเทคโนโลยีในรูปแบบเดิม ๆ มาเป็นเทคโนโลยีดิจิทัลแบบใหม่ ๆ และยังเป็นการเร่งให้มีการใช้งานแพร่หลายมากขึ้นด้วย
- สำหรับในระยะสั้น Lenovo จะยังคงพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ ในรูปแบบเดิม ส่วนในระยะกลาง บริษัทจะมุ่งเน้นในการให้บริการคลาวด์ข้อมูล, เทคโนโลยี AR และเทคโนโลยี VR ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสำคัญในการเข้าสู่โลกเสมือนอย่าง Metaverse ขณะที่ในระยะยาว บริษัทจะมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร รวมถึงแอปพลิเคชันต่าง ๆ
- โดย Lenovo ตั้งเป้าจ้างนักวิจัยและพัฒนาเพิ่มอีก 12,000 คนภายในอีก 3 ปีข้างหน้าณ สิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา บริษัทมีพนักงานในแผนกวิจัยและพัฒนาแล้วราว 10,000 คน
- ที่ผ่านมา บริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีทั่วโลก ต่างก็ประสบปัญหาขาดแคลนชิป ซึ่งเรื่องนี้ Lenovo ได้วางแผนไว้แล้ว โดยเข้าลงทุนในบริษัทพัฒนาชิปเซมิคอนดักเตอร์ 15 แห่ง
- รวมถึงยังเข้าซื้อหุ้นในบริษัทที่เชี่ยวชาญในการผลิตเทคโนโลยี AR, เทคโนโลยี VR, หุ่นยนต์ และอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ด้วย
และนี่ก็คือข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจล่าสุดจาก Lenovo ที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบถูกใจคอไอทีทุกคน เพราะนี่ถือเป็นอีกหนึ่งย่างก้าวสำคัญของการเปลี่ยนผ่านของค่ายไอทียักษ์ใหญ่จากจีนในปีนี้ และหากมีข่าวความเคลื่อนไหวสำคัญในโลกไอทีเช่นนี้อีก เราจะรีบมาอัพเดทให้ทุกท่านได้ทราบโดยทันที