Microsoft เดินหน้าเอาใจสายเกมและสายเทคโนโลยีด้วยการปล่อยเดโมเกม Quake II เวอร์ชันใหม่ ที่ใช้ AI มาช่วยสร้าง! งานนี้เรียกเสียงฮือฮาได้ไม่น้อย เพราะเป็นครั้งแรกที่เกมในตำนานอย่าง Quake II ถูกนำมารื้อโค้ดใหม่ด้วยเทคโนโลยี AI ซึ่งทาง Microsoft ร่วมมือกับ Inworld AI และใช้ Azure PlayFab เป็นเบื้องหลังการพัฒนา
จุดเด่นของเวอร์ชันนี้คือ NPC ภายในเกมถูกสร้างให้พูดคุยและตอบสนองได้แบบสมจริงขึ้นกว่าเดิม โดยใช้โมเดลภาษา (LLM) ที่ฝังเข้าไปกับตัวเกมโดยตรง แถมยังมีฟีเจอร์ใหม่อย่างการออกคำสั่งด้วยเสียงและการปรับบทสนทนาให้สอดคล้องกับบริบทของเกม
แต่… แน่นอนว่าไม่ใช่ทุกอย่างจะเป๊ะเว่อร์ เพราะ Microsoft ก็ออกมายอมรับแบบตรงๆ ว่าเทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วง “ทดลอง” เท่านั้น ตัวเกมยังมีข้อจำกัดอยู่พอสมควร เช่น NPC บางตัวตอบไม่ตรงประเด็น พูดซ้ำ หรือบางครั้งหลุดบทไปเลยก็มี ซึ่งเป็นข้อจำกัดที่เกิดจากการใช้ LLM ยังไม่สมบูรณ์แบบ 100%
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ บางฉากในเกม NPC จะเงียบไปดื้อๆ หรือพูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับสิ่งที่ผู้เล่นถาม ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของ AI ที่ยังเรียนรู้ไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ใน environment ที่มีตัวแปรเยอะอย่างเกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (FPS)
Microsoft ยังบอกด้วยว่า จุดประสงค์ของเดโมนี้ไม่ได้ทำมาเพื่อเล่นจริงจัง แต่เป็นเพียงการแสดงศักยภาพของ AI สำหรับวงการเกมในอนาคต ซึ่งเปิดประตูให้ dev และนักสร้างเกมนำไปต่อยอดกันเอง
แม้ว่ามันจะยังไม่สมบูรณ์ แต่หลายคนก็ตื่นเต้นกับแนวคิดที่ว่า เกมในอนาคตอาจสามารถ “คิด” และ “ตอบ” ได้เอง โดยไม่ต้องเขียนสคริปต์ให้เป๊ะทุกประโยคอีกต่อไป และยังเป็นจุดเริ่มต้นของการรวม AI แบบ fully dynamic interaction เข้ากับ gameplay จริงๆ
พูดง่ายๆ คือ นี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของเกมที่มีเนื้อเรื่องเปลี่ยนแปลงได้ตามพฤติกรรมผู้เล่น ซึ่งจะเปลี่ยนประสบการณ์เล่นเกมแบบเดิมๆ ไปโดยสิ้นเชิง
ใครอยากลองเล่น demo นี้สามารถโหลดได้จากหน้า GitHub ของ Microsoft (แต่เนื้อหายังไม่เปิดให้ดาวน์โหลดในวงกว้าง) และอย่าลืมว่า นี่คือของใหม่ที่ยังอยู่ในขั้น “ทดลอง” ดังนั้นอาจยังไม่เหมาะกับการคาดหวังว่าจะได้เล่นเต็มรูปแบบ
สรุปสั้นๆ:
-
เดโม Quake II ใช้ AI สร้าง NPC ที่ตอบสนองแบบสมจริง
-
มีการใช้ LLM ฝังในเกม และระบบเบื้องหลังเป็น Azure PlayFab
-
ข้อดีคือ NPC พูดจาได้ลื่นไหลกว่าเดิม
-
ข้อเสียคือ ยังมีข้อจำกัด เช่น การตอบไม่ตรง การพูดซ้ำ หรือหลุดบท
-
เป้าหมายเพื่อโชว์ศักยภาพ ไม่ใช่เล่นจริงจัง
จะว่าไป มันก็เหมือนการดูอนาคตของเกมเลยล่ะ เพราะถ้า AI พัฒนาไปได้ถึงจุดที่สามารถเข้าใจทุกอย่างในเกมได้จริงๆ ก็อาจถึงวันที่เราได้เล่นเกมที่ “คุยกับตัวละครได้จริงๆ” เหมือนหนังไซไฟเลยทีเดียว