โมโตโรล่าได้ฤกษ์ เปิดแอนดรอยด์แทบเล็ต “ซูม” ขายครั้งแรกโมบาย เอ็กซ์โป “เอสไอเอส” ชี้ครึ่งปีหลังตลาดแทบเล็ตเดือด หวั่นเบรกยอดโตโน้ตบุ๊ค นายโรเบิร์ต แวน ทิลเบิร์ก ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียใต้ของโมโตโรล่า กล่าวว่า บริษัทเปิดตัวแทบเล็ตบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ตัวแรก “โมโตโรล่า ซูม” และยังเป็นแทบเล็ตรุ่นแรกที่ใช้แอนดรอยด์เวอร์ชั่น 3.0 ซึ่งพัฒนามาเพื่อการใช้บนแทบเล็ตโดยเฉพาะ โดยทำราคาในไทยเริ่มต้นที่ 1.99 หมื่นบาทสำหรับรุ่นไวไฟ และ 2.39 หมื่นบาทสำหรับรุ่น 3จี+ไวไฟ ขณะเดียวกันก็ยังคงจะจำหน่ายผ่านบริษัทคูล ดิสทริบิวชั่น ในเครือเอสไอเอส โดยจะเริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกจำนวนจำกัดในงานไทยแลนด์ โมบาย เอ็กซ์โป ตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.นี้ เขาระบุว่า หลังจากบริษัทเปิดตัวแทบเล็ตดังกล่าวในสหรัฐได้รับการตอบรับดีมาก โดยในไตรมาสแรกมียอดขายทั่วโลกแล้ว 2.5 แสนเครื่อง เนื่องจากเป็นแทบเล็ตที่ทำงานด้วยโปรเซสเซอร์ดูอัลคอร์ ความเร็ว 1 กิกะเฮิรตซ์ หน่วยความจำภายใน 32 กิกะไบต์ และแรม 1 กิกะไบต์ นอกจากนี้ยังมีกล้องด้านหน้า และด้านหลัง และรองรับการทำงานแบบมัลติทาสกิ้ง ขณะที่ขนาดจอแบบไวด์สกรีนขนาด 10.1 นิ้ว เหมาะสำหรับการใช้งานเพื่อความบันเทิงต่างๆ ส่วนในไทยบริษัทก็กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับพาร์ทเนอร์ รวมถึงกลุ่มผู้ให้บริการเครือข่ายเพื่อทำตลาดร่วมกัน พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน “โมโตโรล่า เอทริกซ์ (ATRIX)” ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ และโปรเซสเซอร์ แบบดูอัลคอร์ พร้อมรองรับเบราเซอร์มอสซิลล่า ไฟร์ฟ็อกซ์ 3.6 และแฟลช เพลย์เยอร์ ทำให้สามารถใช้งานกราฟฟิกได้ โดยราคาขาย 1.99 หมื่นบาท นายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดในครึ่งปีหลังจะแข่งขันกันดุเดือดมาก โดยเฉพาะตลาดในกลุ่มแทบเล็ต เนื่องจากผู้ผลิตหลายรายมีกำหนดวางตลาดแทบเล็ตรุ่นใหม่ๆตั้งแต่เดือนมิ.ย.เป็นต้นไป “ตลาดมาดุเดือดในช่วงนี้เพราะทุกคนก็รอให้กูเกิลเปิดตัวแอนดรอยด์ฮันนี่ คอมบ์ หรือ เวอร์ชั่น 3.0 ที่พัฒนามาเพื่อแทบเล็ตโดยเฉพาะ ซึ่งโมโตโรล่าก็มีจุดเด่นที่กูเกิลเลือกเป็นฮาร์ดแวร์ พาร์ทเนอร์ตอนพัฒนาโอเอส ทำให้คุณสมบัติหลายๆอย่างก็น่าจะดี” อย่างไรก็ตามเขาให้ความเห็นว่า กระแสของตลาดแทบเล็ตไทยช่วงครึ่งปีหลังอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของตลาดพีซี โดยเฉพาะโน้ตบุ๊ค เนื่องจากมีผู้ซื้อบางกลุ่มที่อาจตัดสินใจใช้งบที่เคยเตรียมไว้สำหรับซื้อโน้ตบุ๊คมาซื้อแทบเล็ตแทน และมีแนวโน้มจะทำให้ยอดขายโน้ตบุ๊คที่เคยโตได้ราว 20-30% ต่อปี เหลือ 10% ในปีนี้ ขณะเดียวกันก็คาดว่าตลาดไทยจะมียอดขายแทบเล็ตได้ราว 1-2 แสนเครื่องได้ภายในปีนี้ bangkokbiznews