ทุกวันนี้เวลาเราพูดถึงสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงระดับท็อป ๆ ของ Samsung ซีรีส์ Galaxy S นี่คือสิ่งที่ใคร ๆ ก็มักคาดหวัง: ดีไซน์หรูหรา, กล้องแจ่ม, ชิปเซ็ตแรง, ฟีเจอร์ล้ำ ๆ รวมถึงความจุเครื่องที่จุได้เยอะพอตัว แต่ล่าสุดมีข่าวว่า Samsung Galaxy S25 จะมาพร้อมตัวเลือกความจุใหม่ที่น่าสนใจมากขึ้นกว่ารุ่นก่อน ๆ ซึ่งฟังดูเหมือนเยี่ยมเลยนะ แต่ส่วนตัวยังแอบบ่นเบา ๆ ว่าทำไมไม่เพิ่มไปให้สุดกว่านี้กันไปเลยล่ะ!
อย่างที่รู้กันดี ซีรีส์ Galaxy S ก่อนหน้านี้บางรุ่นก็เคยให้ความจุมาหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น 128GB, 256GB, 512GB จนไปถึง 1TB ในรุ่นสุดท็อปบางตัว แต่มักจะตัด microSD card slot ทิ้งไป ทำเอาหลายคนที่ชอบอัปเกรดความจุเสริมเองต้องเซ็ง เพราะการใส่การ์ดความจุเพิ่มเติมเป็นความสะดวกที่คนจำนวนไม่น้อยอยากได้ แม้จะมีหลายเหตุผลด้านประสิทธิภาพหรือความเร็วการอ่าน–เขียน แต่ก็ยังมีผู้ใช้บางส่วนโหยหาความยืดหยุ่นแบบเมื่อก่อน
แล้ว Samsung Galaxy S25 มีอะไรใหม่บ้าง?
ข่าวลือตอนนี้บอกว่า Samsung Galaxy S25 อาจอัปเลเวลความจุภายในให้มากขึ้นกว่ารุ่นก่อน โดยอาจมีตัวเลือกใหม่ที่ 512GB หรือแม้แต่ 1TB ในรุ่นท็อป ทำให้คนที่เป็นสายถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ 4K (หรือบางทีก็ 8K) จะได้ไม่ต้องห่วงว่าพื้นที่จะเต็มเร็วเหมือนแต่ก่อน แต่ก็ยังมีคำถามคาใจของสายจัดเต็ม: “ทำไมถึงไม่ใส่ความจุ 2TB มาเลยล่ะ?” หรือ “ทำไมไม่ใส่ microSD card slot กลับมา?” อย่างน้อยก็ให้เรามีตัวเลือกเผื่ออนาคต เพราะสมัยนี้ไฟล์ข้อมูลใหญ่ขึ้นทุกปี ๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์วิดีโอความละเอียดสูง เกมที่กินพื้นที่เป็นสิบกิกะไบต์ หรือแม้แต่ไฟล์รูป RAW สำหรับสายถ่ายภาพที่ต้องการคุณภาพไฟล์สูงสุด
การมีรุ่นความจุ 1TB ก็ถือว่าดีมากแล้วในแง่ความจุภายใน แต่เอาจริง ๆ สายฮาร์ดคอร์ที่ใช้แบบยาว ๆ อาจอยากได้มากกว่านั้น โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับความจุในอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊กหรือแท็บเล็ต บางครั้งเราก็อยากให้สมาร์ทโฟนของเราเป็นอุปกรณ์ศูนย์กลางเก็บข้อมูลสารพัดอย่าง ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายเอกสาร ไฟล์งาน วิดีโอโปรเจกต์ แพลนเที่ยว หรือไฟล์เพลงระดับ Hi-Res ก็ยิ่งฟังยิ่งเต็มเร็ว การมีตัวเลือก 2TB หรืออย่างน้อยการเอาสล็อต microSD กลับมาให้ก็จะช่วยสร้างความแตกต่างให้ซีรีส์ Galaxy S25 ได้ไม่น้อย
สเปกอื่น ๆ ที่คาดหวัง
นอกจากประเด็นความจุแล้ว สายสเปกคงอยากเห็นการอัปเกรดแรมให้เยอะขึ้น สมาร์ทโฟนเรือธงเดี๋ยวนี้ระดับ RAM 12GB-16GB ก็กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว เชื่อว่าพอถึง Galaxy S25 อาจมีเวอร์ชัน RAM 12GB หรือ 16GB เป็นอย่างน้อย เพื่อรองรับการทำงานหลายแอปพร้อมกัน หรือเล่นเกม 3D หนัก ๆ โดยไม่กระตุก ส่วนเรื่องชิปเซ็ต อาจเป็นรุ่นใหม่ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรมเล็กลงกว่าเดิม ทำให้เครื่องประหยัดพลังงานขึ้น และจัดการความร้อนได้ดีกว่า
ในส่วนของจอแสดงผล ก็คาดว่าน่าจะมี Dynamic AMOLED รุ่นใหม่ ความละเอียดระดับ QHD+ รีเฟรชเรตสูง 120Hz หรือ 144Hz ให้ภาพลื่นไหลสุด ๆ ใครชอบดูซีรีส์ เล่นเกม หรือเลื่อนฟีดโซเชียลนาน ๆ น่าจะฟินไม่น้อย ส่วนเรื่องแบตเตอรี่ ก็อยากให้ขยับขึ้นไปอีก เพื่อรองรับจอที่ความละเอียดสูงและรีเฟรชเรตที่สูงขึ้น โดยมีข่าวลือว่าอาจจะอยู่ราว ๆ 5,500-6,000 mAh และรองรับชาร์จไวที่แรงขึ้นอีกระดับ เพื่อให้การชาร์จเต็มภายในระยะเวลาสั้นลง
กล้องที่อัปเกรดไปอีกระดับ
จุดขายอีกอย่างของ Samsung Galaxy Series แน่นอนว่าหนีไม่พ้นเรื่องกล้อง ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์หลักความละเอียดสูง เลนส์อัลตร้าไวด์คุณภาพจัดเต็ม หรือเลนส์เทเลโฟโต้ซูมไกลแบบพีริสโคป Galaxy S25 อาจมาพร้อมเซนเซอร์ใหม่ที่อาจมีความละเอียด 200MP หรือปรับปรุงระบบ AI ในการประมวลผลภาพให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในสภาพแสงน้อย หรือ Night Mode ที่เคยเป็นจุดขายของรุ่นพี่ในซีรีส์ S นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือเกี่ยวกับการพัฒนาซอฟต์แวร์ HDR เพื่อให้ภาพถ่ายมีไดนามิกเรนจ์กว้างขึ้น ดูคมชัดและสีสันใกล้เคียงธรรมชาติกว่าเดิม
ดีไซน์จะเปลี่ยนไหม?
หลายคนอาจสงสัยว่า Galaxy S25 จะปรับหน้าตาไปเยอะไหม บางแหล่งข่าวเดาว่าอาจมีการเปลี่ยนดีไซน์กรอบเครื่องให้บางลงกว่าเดิม หรือใช้วัสดุใหม่ที่ทนทานมากขึ้น แต่ก็ยังคงซิกเนเจอร์ความบางและพรีเมียมแบบซีรีส์ S อยู่ จุดที่น่าสนใจคืออาจมีสีใหม่ ๆ ให้เลือกเพิ่ม รวมไปถึงการปรับปรุงโครงสร้างภายในเพื่อลดการสะสมความร้อนระหว่างการใช้งานหนัก ๆ ซึ่งเป็นโจทย์สำคัญของสมาร์ทโฟนสมัยนี้
ส่วนตัวมองว่าการเปลี่ยนดีไซน์อาจไม่สุดโต่งมาก เพราะ Samsung มักจะค่อย ๆ ปรับทีละนิดมากกว่าจะเขย่าใหม่หมด ใครที่หวังเห็นดีไซน์เปลี่ยนยกเครื่องแบบชัดเจน อาจต้องรอลุ้น หรือเผื่อรุ่นถัด ๆ ไปอาจมีเซอร์ไพรส์ใหญ่
ซอฟต์แวร์ One UI ใหม่
Samsung มักมากับ One UI รุ่นใหม่ควบคู่กับสมาร์ทโฟนเรือธงเสมอ ดังนั้น Galaxy S25 ก็น่าจะมาพร้อม One UI เวอร์ชันล่าสุด (ซึ่งอาจจะเป็น One UI 7 หรือชื่ออื่นที่อัปเดตตามยุค) จุดแข็งของ One UI คือความเรียบง่าย เข้าใจง่าย และฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ปรับให้เหมาะกับการใช้งานมือเดียว รวมถึงระบบมัลติทาสก์ที่ต่อยอดมาได้สะดวกขึ้น และการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ในระบบนิเวศของ Samsung ได้ดีขึ้นด้วย
มีการคาดเดาว่าใน One UI รุ่นถัดไป อาจมีระบบการจัดการพลังงานที่ฉลาดขึ้น หรือฟีเจอร์สำหรับกลุ่มที่ทำงานนอกบ้าน เช่น การปรับปรุง Samsung DeX ให้ใช้งานได้ใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์มากขึ้น รวมถึงการเพิ่มเครื่องมือสำหรับสายสร้างคอนเทนต์ ตัดต่อวิดีโอ 4K บนมือถือได้ลื่น ๆ เป็นต้น
ทำไมอยากให้ Samsung ไปไกลกว่านี้?
สำหรับคนที่จริงจังกับการใช้สมาร์ทโฟนเพื่อแทนที่อุปกรณ์หลาย ๆ อย่าง เช่น กล้องถ่ายรูป, เครื่องเล่นเพลง, คอมพิวเตอร์พกพา ฯลฯ ย่อมต้องการทั้งความจุที่สูงจริง ๆ และประสิทธิภาพแบบจัดเต็ม เป็นเหตุผลว่าทำไมถึงอยากเห็น Samsung ดันสเปกความจุภายในให้พุ่งไปเลย หรือไม่ก็นำช่อง microSD card slot กลับมาแบบจัดเต็ม เพราะอะไรที่ยืดหยุ่นย่อมดีกับผู้ใช้สายพกข้อมูลเยอะ
แน่นอนว่ามีเหตุผลทางเทคนิคที่ทำให้ Samsung (หรือแบรนด์อื่น ๆ) หลายรายเลือกตัด microSD card slot ออกไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเร็วในการอ่าน-เขียนที่อาจไม่เสถียรเท่าหน่วยความจำภายในเครื่อง (UFS) หรือดีไซน์ภายในที่ต้องการใช้พื้นที่สำหรับส่วนอื่น ๆ อย่างแบตเตอรี่หรือฮาร์ดแวร์กล้อง แต่เอาจริง ๆ ผู้ใช้บางกลุ่มก็ยังอยากมีตัวเลือกเสมอ ว่าจะอัปเกรดเองได้หรือไม่
ราคาอาจเป็นปัจจัยหนึ่ง
เมื่อพูดถึงความจุที่สูงขึ้น ราคาก็ย่อมสูงขึ้นตามไปด้วย ถ้ามีรุ่น 2TB จริง อาจทำให้ราคาทะลุเพดานจนผู้ใช้บางกลุ่มสู้ไม่ไหว การมีรุ่นเริ่มต้นที่ 256GB หรือ 512GB ก็อาจเพียงพอสำหรับคนส่วนใหญ่ แต่อย่างไรก็ดี โลกยุคนี้ไฟล์ต่าง ๆ ก็ใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ การขยับไปใช้รุ่น 512GB ขึ้นไปจึงค่อนข้างสำคัญ ถ้า Samsung ยังอยากจับลูกค้าสายโปร สายครีเอเตอร์ ที่ต้องการพื้นที่เยอะ ๆ เพื่อทำงานบนสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียว
ความหวังและความเป็นไปได้
ถึงแม้ตอนนี้จะมีข่าวลือกันว่า Galaxy S25 จะมีตัวเลือกความจุใหม่ที่น่าสนใจ แต่ก็ยังไม่มีการยืนยันแบบ 100% ว่าจะมีตัวเลือก 2TB หรือ microSD card slot หรือไม่ คงต้องรอดูกันใกล้ ๆ ช่วงเปิดตัวจริง ถ้าหาก Samsung เปิดตัวด้วยสเปกความจุที่พุ่งกว่าที่คาด ไอเดีย “ทำไมไม่ไปให้สุด?” ก็คงหายสงสัย แต่หากเปิดตัวมาเพียงอัปเกรดนิด ๆ หน่อย ๆ ก็คงมีเสียงบ่นจากแฟน ๆ ที่อยากได้มากกว่านี้ตามระเบียบ
สรุป
Samsung Galaxy S25 ถูกคาดหวังอย่างมากในฐานะสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นต่อไป แฟน ๆ จำนวนไม่น้อยอยากเห็นการก้าวกระโดดเรื่องความจุ ไม่ว่าจะเป็นขยับไป 1TB หรือ 2TB หรืออย่างน้อยก็คืนชีพ microSD card slot เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นในการใช้งานในระยะยาว แน่นอนว่าถ้ามีความจุภายในเยอะขึ้นหรือมีสเปกอัปเกรดด้านอื่น ๆ ก็นับเป็นข่าวดี แต่ก็ยังแอบหวังว่า Samsung จะตัดสินใจ “ไปให้สุด” กว่านี้ เพื่อสร้างความตื่นเต้นให้กับวงการมือถือและตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องใช้สมาร์ทโฟนเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่งจริง ๆ
เอาเป็นว่าตอนนี้ก็เกาะติดข่าวกันต่อไป ใครที่ตั้งตารอ Galaxy S25 อาจต้องเตรียมงบกันไว้สักหน่อย หากมีตัวเลือกความจุใหญ่ ราคาก็น่าจะสูงขึ้น แต่ถ้าเป็นสายที่ต้องการพื้นที่เยอะ ๆ อยู่แล้ว การลงทุนซื้อความจุเผื่ออนาคตไปเลยก็น่าจะคุ้ม ยิ่งถ้า Samsung อัปเกรดเรื่องกล้อง เรื่องจอ เรื่องแบต ไปพร้อม ๆ กัน การได้สมาร์ทโฟนที่ครบเครื่อง ไม่ต้องกังวลพื้นที่เต็มง่าย ๆ ก็อาจกลายเป็นคำตอบที่ลงตัวของใครหลายคนเลยทีเดียว