ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิวัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับนายเอเค ซูซูกิ ผู้ว่าราชการจังหวัดมิเอะ (Eikei Suzuki Governor of Mie Prefecture) ประเทศญี่ปุ่นเข้าพบว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดมิเอะแจ้งให้กระทรวงอุตสาหกรรมทราบว่ามีนโยบายที่จะส่งเสริมนักธุรกิจมิเอะเข้ามาลงทุนในอาเซียนมากขึ้น โดยต้องการใช้ไทยเป็นฐานการลงทุนในอาเซียนและเข้ามาตั้งหน่วย ASEAN Business Support Desk ในกรุงเทพฯ เพื่ออำนวยความสะดวกและสนับสนุนข้อมูลอาเซียนให้นักธุรกิจจากมิเอะ ซึ่ง โดยนักธุรกิจมิเอะส่วนใหญ่เป็นเอสเอ็มอีที่รับช่วงการผลิตต่อจากผู้ประกอบการรายใหญ่ และที่ผ่านมาจังหวัดมิเอะได้สนับสนุนการวิจัยและพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิตให้กับเอสเอ็มอีเพื่อพัฒนาวัสดุชั้นสูงและเซลส์เชื้อเพลิง ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ กล่าวว่า นักธุรกิจจากจังหวัดมิเอะสนใจลงทุนในอุตสาหกรรมที่ไทยมีความเข้มแข็ง เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ รวมทั้งสนใจลงทุนในอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม เนื่องจากไทยได้สัมปทานปิโตรเลียมในพม่าและนักธุรกิจญี่ปุ่นสนใจเข้าไปทำธุรกิจในพม่าที่กำลังเปิดประเทศ และการเดินทางมาไทยครั้งนี้จังหวัดมิเอะได้นำคณะนักธุรกิจมาด้วย 13 ราย และจังหวัดมิเอะได้จัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2555 ซึ่งมีการจับคู่ธุรกิจเพื่อทำการค้าและการลงทุนร่วมกันประมาณ 1,000 ล้านบาท เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ ขณะนี้หลายจังหวัดในญี่ปุ่นผลักดันให้นักธุรกิจออกมาลงทุนนอกประเทศมากขึ้นเพื่อลดต้นทุน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดโอซาก้าจะเข้าพบที่กระทรวงอุตสาหกรรมในวันที่ 19 ก.ย.2555 เพื่อหาความร่วมมือที่จะผลักดันนักธุรกิจญี่ปุ่นในโอซาก้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น และก่อนหน้านี้ก็มีผู้ว่าราชการจังหวัดชิบะเดินทางมาไทยเพื่อดูลู่ทางการลงทุนในไทยเช่นกัน แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า จังหวัดมิเอะเลือกให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนในอาเซียน และเลือกกรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งหน่วย ASEAN Business Support Desk โดยมอบหมายให้บริษัทโนมูระเป็นผู้ดำเนินการ และเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการไปเมื่อเดือน พ.ค.2555 มีสำนักงานตั้งอยู่ที่อาคารยูเอ็มทาวเวอร์ ถนนรามคำแหง กรุงเทพฯ แหล่งข่าว กล่าวว่า จังหวัดมิเอะมีผลิตภัณฑ์หลายชนิดที่เป็นที่รู้จักในไทย เช่น เนื้อมัตสึซากะ ไข่มุกมิกิโมโต และเริ่มส่งส้มมิเอะนันกิมาไทยเมื่อปี 2553 วางจำหน่ายที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตของเครือเซ็นทรัล ซึ่งการเดินทางมาไทยครั้งนี้มีกำหนดเข้าพบบริษัทเซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น และห้างสรรพสินค้าอิเซตันเพื่อขยายลู่ทางการค้าในไทยด้วย ทั้งนี้ จังหวัดมิเอะมีนโยบายส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของจังหวัดจากโครงสร้างอุตสาหกรรมรูปแบบดั้งเดิมไปเป็นอุตสาหกรรมที่อยู่บนองค์ความรู้มากขึ้น และผลักดันผู้ประกอบการในจังหวัดออกไปลงทุนในต่างประเทศ โดยกำหนดยุทธศาสตร์พัฒนาจอแอลซีดี เซมิคอนดักเตอร์ ยาและเวชภัณฑ์ ซึ่งเมื่อเดือน ม.ค.2555 คณะผู้แทนจากจังหวัดมิเอะเดินทางมาดูลู่ทางการลงทุนอุตสาหกรรมยาและเครื่องมือการแพทย์ในไทย ซึ่งได้หารือกับบีโอไอและสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อหาความร่วมมือร่วมกัน โดยในการเยือนไทยครั้งนี้จังหวัดมิเอะและ อย.ตกลงตั้ง Contact Point for Information Exchange ร่วมกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร