เป็นเรื่องที่น่าเสียใจสำหรับวงการเทคโนโลยียานยนต์ซึ่งได้พัฒนาระบบขับขี่อัตโนมัติหรือที่เรียกกว่า Autopilot ของ Tesla ที่ได้ทำการเพิ่มระบบนี้เมื่อช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้วมานั้นเกิดปัญหาส่งผลต่อผู้ขับขี่ถึงชีวิต สำหรับชาวไอทีเมามันส์หลายท่านที่ติดตามข่าวด้านยานยนต์อาจจะทราบข่าวกันบ้างแล้ว
โดยจากแหล่งข่าวรายงานว่าเกตุเกิดขึ้นที่เมือง Williston รัฐฟลอริดา ผู้ขับรถ Tesla Model S คือคุณ Joshua D. Brown อายุ 40 ปี ก่อนเขามาถึงทางแยก มีรถบรรทุกขนาดใหญ่กำลังเลี้ยวขวางถนนอยู่ รถยนต์ Tesla ของ Brown แยกแยะระหว่างด้านข้างของรถบรรทุกซึ่งเป็นสีขาว กับท้องฟ้าที่ค่อนข้างสว่างไม่ออก ทำให้ไม่ได้เบรก พุ่งชนและลอดใต้รถบรรทุกไป ชายล่างของตัวเทรลเลอร์ฉีกหลังคารถ Tesla ออกทั้งแผ่น รถของ Brown ไปจอดนิ่งห่างจากจุดเกิดอุบัติเหตุไปหลายร้อยฟุต เขาเสียชีวิตทันที
จากข้อมูลในข่าวคุณ Brown เคยเป็นสมาชิกของหน่วย SEAL นานถึง 11 ปีก่อนจะออกมาในปี 2008 และไปก่อตั้งบริษัท Nexu Innovations ทำกิจการเกี่ยวกับเครือข่ายและกล้องไร้สาย
และบทสัมภาษณ์คนขับรถบรรทุกคือคุณ Frank Baressi อายุ 62 ปี กล่าวว่าหลังจากชน เขาไปดูรถ Tesla พบว่าบนหน้าจอกำลังเล่นภาพยนตร์ Harry Potter อยู่ แต่ไม่เป็นที่แน่ชัดว่ารถ Tesla อนุญาตให้ชมภาพยนต์ขณะรถกำลังวิ่งอยู่ได้หรือไม่ และในรายงานของตำรวจก็ไม่มีการกล่าวถึงภาพยนตร์นี้ด้วย ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆน่าๆด้านความเหมาะสมและข้อมูลที่เกิดขึ้น จึงทำให้ทางบริษัท Tesla ต้องออกมาแถลงข่าว..
โดยทาง Tesla ได้ออกมากล่าวแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งชี้แจงว่าระบบ Autopilot ยังต้องการความสนใจจากคนขับตลอดเวลา และต้องเตรียมพร้อมที่จะเข้าควบคุมรถได้ทุกเมื่อ โดยรถจะตรวจสอบเรื่อยๆ ว่ามือของผู้ขับยังจับพวงมาลัยอยู่หรือไม่ หากไม่จับจะส่งสัญญาณเสียงเตือน พร้อมกับขึ้นข้อความบนหน้าจอ และหากยังไม่จับ รถจะชะลอความเร็วลงเรื่อยๆ จนกว่าจะมีปฏิกิริยาจากผู้ขับขี่
Owner video of Autopilot steering to avoid collision with a truckhttps://t.co/FZUAXSjlR7
— Elon Musk (@elonmusk) April 17, 2016
แม้ว่าจากข้อมูลที่ผ่านมาคุณ Brown ได้เคยโพสคลิปวิดีโอถึงความสามารถของรถที่โดนรถบรรทุกปาดหน้าและระบบขับขี่อัตโนมัตินั้นได้ทำการหลบหลีกได้อย่างดีจนเป็นที่ฮือฮาระดับโลกจนเจ้าของ Tesla อย่าง Elon Musk ต้องแชร์ต่อก็ตามที แต่วันนี้ก็ทำให้เกิดอุบัติติเหตุที่เราไม่คาดคิดได้ และแม้ข้อมูลเชิงสถิติจะบอกว่าอุบัติเหตุมีทุกๆ 1 ครั้ง ใน 94 ล้านไมล์และทุกๆ 60 ล้านไมล์ทั่วโลกก็ตาม แต่ก็ถือเป็นความปิดพลาดของระบบที่เกิดขึ้นอยู่ดี
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็อยู่ในชั้นสอบสวนของ NHTSA – National Highway Traffic Safety Administration แล้วซึ่งคงจะทราบผลในไม่ช้า สำหรับผู้ขับขี่ชาวไอทีเมามันส์ก็อย่าลืมว่าอุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แม้ว่าจะพยามเซฟตี้มากแค่นี้ก็ควรที่จะระวังให้มากครับ ขับขี่ปลอดภัยและมีน้ำใจเพื่อนร่วมถนนครับ