สายท่องเที่ยวบอกเลยว่าต้องไม่พลาดคอนเทนต์นี้ เพราะครั้งนี้เรากำลังจะพาคุณมาส่องโครงการ “Red sea” สถานที่ท่องเที่ยวสุดล้ำของซาอุดีอาระเบียแห่งใหม่ ที่เมื่อสร้างเสร็จแล้วมันจะกลายเป็นแม่เหล็กที่ดึงดูดให้ผู้คนจากทั่วโลกอยากมาเที่ยวประเทศซาอุดิอาระเบีย รายละเอียดจะเป็นอย่างไร ใครอยากรู้ ตามมาดูกันเลย
สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับโครงการ Red Sea ได้ดังนี้
- เดอะ เรดซี โปรเจกส์ (The Red Sea Project) โครงการพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวสุดหรูหราในประเทศซาอุดีอาระเบีย ปล่อยวิดีโอฉลองความคืบหน้าในการก่อสร้างครบ 6 ปี ซึ่งปัจจุบันนี้ เริ่มส่อเค้าให้เห็นถึงความสวยงามอลังการของแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ตามแนวชายฝั่งของซาอุดีอาระเบีย
-
คลิปวิดีโอที่พึ่งปล่อยออกมานี้ ได้แสดงความคืบหน้าของโครงการก่อสร้างสถานที่รองรับนักท่องเที่ยวหลากหลายจุดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเกาะน้อยใหญ่ เช่น เกาะชูรา (Shura), เกาะเชบารา (Sheybara) และที่พักกลางทะเลทราย (Desert rock)
-
เริ่มจากเกาะชูรา (Shura) หรือที่รู้จักในชื่อ คอรัล บลูม (Coral Bloom) ซึ่งได้ไอเดียมาจากความสวยงามของปะการังใต้ทะเล และนับเป็นเกาะหลักของโครงการแห่งนี้ จะเปิดให้บริการแก่ผู้เข้าพักในปี 2024 บนเกาะจะมีโรงแรมและรีสอร์ทระดับโลก 11 แห่ง รวมถึงสนามกอล์ฟระดับแชมป์เปี้ยนชิพ 18 หลุม ท่าจอดเรือ และบีชคลับ พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีการวางโครงสร้างที่พักบนเกาะเรียบร้อยแล้ว
-
ต่อกันที่เกาะเชบารา (Sheybara) เป็นเกาะที่ล้อมรอบด้วยน้ำทะเลใส ห่างไกลจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวัน แขกสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมทางน้ำ หรือเลือกพักผ่อนบนหาดทรายขาว และยังมีจุดส่องแนวปะการัง รวมถึงวิลล่า หรือที่พักในลักษณะลูกกลมสีเงินสะท้อนแสง ที่เรียกว่า ออร์บ (Orbs) แต่ละลูกหนักประมาณ 150 ตัน ซึ่งจะวางเรียงรายรอบเกาะ และตั้งห่างกันเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวแก่ผู้เข้าพัก โดยปัจจุบันก็ได้มีการติดตั้งวิลล่าเหล่านี้ไปทั้งสิ้น 26 หลังแล้ว
-
ปิดท้ายกันด้วยความคืบหน้าของ Desert rock เป็นที่พักที่ตั้งซ้อนเร้นอยู่ในหุบเขา ช่วยให้แขกได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติในอีกระดับหนึ่ง ในขณะที่มอบความหรูหรา ด้วยสถาปัตยกรรมที่ผสานเข้ากับไหล่เขาโดยสมบูรณ์ และห้องพักทุกห้องมองเห็นวิวเส้นขอบฟ้าได้แบบไร้สิ่งกีดขวาง ทำให้ผู้เข้าพักได้ดื่มด่ำกับภูมิทัศน์ทะเลทรายเบื้องล่าง ซึ่งปัจจุบันความคืบหน้าในการก่อสร้างโดยรวมอยู่ที่ราว 52%
-
สำหรับบริเวณทะเลแดง ที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้ นับเป็นหนึ่งในสมบัติทางธรรมชาติที่ล้ำค่าของโลก เพราะล้อมรอบไปด้วยระบบแนวปะการังที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก และยังครอบคลุมพื้นที่กว่า 28,000 ตารางกิโลเมตร มีหมู่เกาะกว่า 90 เกาะ ชายหาดที่บริสุทธิ์ เนินทรายที่กว้างใหญ่ หุบเขาลึก และแหล่งวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์
-
โครงการนี้ ตั้งเป้าเตรียมพร้อมต้อนรับแขกกลุ่มแรกในปี 2023 และภายในปี 2030 จะมีโรงแรมให้บริการมากกว่า 50 แห่ง ห้องพักกว่า 8,000 ห้อง ที่อยู่อาศัยอื่น ๆ อีก 1,000 แห่ง รวมถึงจะมีการสร้างสนามบินนานาชาติของตัวเองอีกด้วย
และนี่ก็คือข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในแวดวงการท่องเที่ยวที่เราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้จักในครั้งนี้ ก็หวังว่าจะเป็นที่ชื่นชอบถูกใจสายเที่ยวกันทุกคน และหากมีความคืบหน้าประการใดเกี่ยวกับโปรเจ็คต์นี้อีกเราจะรีบมาอัพเดทให้ทุกท่านได้ทราบก่อนใครโดยทันที