บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ประกาศจะเปิดตัวรถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ 21 รุ่นในตลาดโลกภายในสิ้นปี 2558 โดยตั้งเป้ายอดขายทั่วโลกไว้ที่ 1 ล้านคันต่อปีเป็นอย่างน้อยที่สุดในช่วงตั้งแต่ปี 2556-2558 สำหรับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน-ไฟฟ้าดังกล่าว โตโยต้า ระบุว่า จะเสนอขายรถยนต์ไฟฟ้าขนาดคอมแพ็คท์ รุ่นใหม่ limited edition คือรุ่น “eQ” ราคาคันละ 3.6 ล้านเยน หรือ 46,000 ดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่รัฐบาลท้องถิ่น และผู้ใช้บางกลุ่มในญี่ปุ่น และสหรัฐตั้งแต่เดือนธ.ค. โดยรถยนต์รุ่นใหม่ดังกล่าวมีอัตราการบริโภคพลังงานไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด บริษัท ยังวางแผนที่จะขายรถคอมแพคคาร์ ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ประมาณ 100 คัน มีอัตราการบริโภคพลังงานต่ำสุดที่ 104 วัตต์ต่อกิโลเมตร ก่อนที่จะเปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นอื่นๆ รวมถึง รถไฟฟ้า RAV4 EV” ในตลาดสหรัฐ ตั้งแต่เดือนกันยายน เป็นต้นไป และโตโยต้า คาดการณ์ด้วยว่า ในปี 2555 ยอดขายรถยนต์ไฮบริดทั่วโลกของโตโยต้าจะสูงเกิน 1 ล้านคัน โตโยต้า เป็นค่ายรถยนต์ผู้บุกเบิกรถยนต์ไฮบริด เริ่มเปิดตัวรถไฮบริดรุ่นแรกคือโตโยต้า พริอุส เมื่อปี 2540 ทำให้มีค่ายรถคู่แข่งหลายแห่ง หันมาผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าหรือรถลูกผสมตามอย่างโตโยต้ากันมากขึ้น ค่ายรถยนต์ชั้นนำสัญชาติญี่ปุ่น เผยว่า รถยนต์ไฮบริด 14 รุ่นจะเป็นรถยนต์ออกแบบและผลิตใหม่ ส่วนที่เหลือจะเป็นการปรับปรุงหรืออัพเดทจากรถยนต์รุ่นที่มีอยู่แล้วในปัจจุบัน ขณะนี้ กลุ่มรถยนต์ประเภทเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งหลาย มียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐ เริ่มจากรถไฮบริด มียอดขายรวมในเดือนสิงหาคม 37,552 คัน คิดเป็น 2.93% แยกเป็น Prius 13,311 คัน Camry hybrid 3,840 คัน Prius C 3,428 คัน Prius V 3,325 คัน และ Chevy Malibu hybrid 2,414 คัน ส่วนรถ Plug-in Hybrid ยอดขายรวม 4,715คัน คิดเป็น 0.37% แยกเป็น รถChevy Volt 2,831 คัน รถ Prius PHEV 1,047 คัน Nissan Leaf 685 คัน รถ Tesla รุ่น S 71 คัน และรถ Mitsubishi i-MiEV 37 คัน และรถใช้น้ำมันดีเซลสะอาด มียอดขายทั้งหมด 11,281 คันคิดเป็น 0.88% ของสัดส่วนยอดขายรวม แยกเป็น โฟล์คสวาเกน Jetta จำนวน 4,421 คัน โฟล์คสวาเกน Passat จำนวน 2,563 คัน โฟล์คสวาเกน Golf จำนวน 1,268 คัน BMW X5 จำนวน 850 และโฟล์คสวาเกน Touareg จำนวน 421