“ทรูมูฟ” รับตลาดเสียงเพลงรอสายไม่โต รุกดึงค่ายเพลงออนไลน์ยักษ์ใหญ่ “มิวสิค วัน” ปลุกตลาด ประเดิมกลุ่มลูกค้าเติมเงินให้ดาวน์โหลดเพลงรอสาย ไม่ต้องจ่ายค่าบริการรายเดือน คาดดันรายได้เพิ่ม 20% ชี้ “3 จี” เพิ่มโอกาสธุรกิจเพลงยุคดิจิทัล นายพิรุณ ไพรีพ่ายฤทธิ์ ผู้อำนวยการธุรกิจนอนวอยซ์และ 3 จี บริษัท ทรู มูฟ จำกัด กล่าวว่า ทิศทางการเติบโตของตลาดรวมนอนวอยซ์ปีนี้คาดว่าจะโตได้ราว 20-25% คิดเป็นมูลค่าราว 32,000 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา เติบโตได้ราว 20% หรือ 26,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่เริ่มเปลี่ยนแปลงมากขึ้น โดยเกือบ 50% จะมาจากกลุ่มดาต้า เซอร์วิส หรือการใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือ จากเดิมสัดส่วนจะเฉลี่ยใกล้เคียงกันระหว่างบริการ 4 ด้าน คือ ดาต้า เซอร์วิส แมสเสจจิ้ง คอนเทนท์ เซอร์วิส และบริการเสียงรอสาย ทั้งนี้ โดยเฉพาะบริการเสียงรอสายที่เคยเป็นเบสิก เซอร์วิส ในกลุ่มนอนวอยซ์ แต่ระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมามีแนวโน้มไม่เติบโต หรือมีมูลค่าตลาดคงที่ราว 3,500 ล้านบาท “ตลาดเสียงเพลงรอสายเมื่อก่อนใหญ่มาก แต่เดี๋ยวนี้ไม่โตแล้ว ซึ่งปัญหาที่เราพบ คือ มีค่าบริการรายเดือนทำให้ลูกค้าที่ไม่ใช่กลุ่มวัยรุ่น หรือฮาร์ดคอร์จริงๆ ไม่อยากใช้บริการ” ล่าสุดทรูมูฟร่วมกับ “มิวสิค วัน” คลังเพลงออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดที่รวมค่ายเพลงทั้งในและต่างประเทศไว้ด้วยกัน เช่น ยูนิเวอร์แซลมิวสิค โซนี่ มิวสิค เลิฟอีส และเคพีเอ็น ให้ลูกค้าทรูมูฟแบบเติมเงินสามารถดาวน์โหลดเพลงรอสายจากมิวสิค วันได้ไม่จำกัด สัปดาห์ละ 9 บาท ไม่มีค่าบริการรายเดือน (ปกติทุกระบบมีค่าบริการรายเดือน 35 บาท) เขาระบุว่า ปัจจุบันทรูมูฟมีลูกค้าใช้บริการ 17 ล้านราย ซึ่ง 90% เป็นระบบเติมเงิน และมีผู้ใช้บริการเสียงเพลงรอสายแล้วราว 1.5 ล้านราย ขณะเดียวกัน ก็คาดว่าจะมีลูกค้าใช้บริการเพิ่มจากแคมเปญครั้งนี้ 1 แสนราย หรือคิดเป็นรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นราว 20% ของกลุ่มนอนวอยซ์ นายนัดดา บูรณศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอร์นเนอร์มิวสิค (ประเทศไทย) จำกัด และกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วัน มิวสิค จำกัด กล่าวว่า เครือข่าย 3 จี จะทำให้การดาวน์โหลดเพลงทำได้เร็วขึ้น และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ซึ่งหลังจากความร่วมมือครั้งนี้ ก็มีแนวโน้มที่จะพัฒนาบริการอื่นๆ ร่วมกันต่อไป เช่น บริการดาวน์โหลดมิวสิค วีดิโอบนมือถือ