หลังจากที่เฟซบุ๊ก (Facebook) เว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ชื่อดัง ได้เข้าซื้อกิจการอินสตาเกรม (Instagram) แอปพลิเคชันด้านการแชร์ภาพชื่อดังในวงการสมาร์ทโฟน จนทำให้ทวิตเตอร์ (Twitter) อยู่นิ่งไม่ได้ ได้ตัดสินเข้าเจรจาเพื่อขอซื้อกิจการแอปพลิเคชัน Camera+ ทันที เพื่อให้เป็นฟีเจอร์เสริมในทวิตเตอร์ แต่ท้ายที่สุดข้อเสนอกลับโดนปัดทิ้งหมด รายงานจากสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุว่า แจ็ค ดอร์ซี่ย์ (Jack Dorsey) ซีอีโอของทวิตเตอร์ ได้บุกเข้าไปพูดคุยกับบริษัท tap tap tap ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน Camera+ ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันด้านการแชร์ภาพชื่อดัง โดยเป้าหมายในการเข้าไปพูดคุยในครั้งนี้ของซีอีโอทวิตเตอร์ มีเพียงเหตุผลเดียวคือต้องการซื้อกิจการ Camera+ เพื่อหวังรวมให้เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ของทวิตเตอร์นั่นเอง อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าการเจรจาเข้าซื้อกิจการ Camera+ ของทวิตเตอร์นั้นได้ถูกปัดข้อเสนอทิ้งลงถังขยะเป็นที่เรียบร้อย ชนิดที่ทวิตเตอร์ยังไม่ทันได้ยื่นข้อเสนอที่เป็นตัวเงินเลยด้วยซ้ำ ซึ่ง สาเหตุในการปฏิเสธข้อเสนอนั้นมีเหตุผลว่า นักพัฒนาที่อยู่ภายใต้สังกัด tap tap tap นั้นกระจายอยู่กันในหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศออสเตรีย นิวซีแลนด์ สเปน เป็นต้น ทำให้ไม่สะดวกที่จะเข้ามาทำงานในสำนักงานใหญ่ของทวิตเตอร์ที่อยู่ในซาน ฟรานซิสโก ทั้งนี้แอปพลิเคชัน Camera+ เป็นแอปพลิเคชันที่มีให้ใช้งานเฉพาะระบบปฏิบัติการไอโอเอสเท่านั้น โดยราคาของแอปพลิเคชัน Camera+ นั้นเคาะราคาจำหน่ายที่ 0.99 เหรียญ (คิดเป็นเงินไทยราว 30 บาท) ซึ่งความสามารถของแอปพลิเคชันนี้ก็ไม่ต่างจากอินสตาแกรมมากนัก โดยจะมีฟิลเตอร์ ฟังก์ชันในการตกแต่งรูปภาพให้สวยงาม พร้อมกับความสามารถในการแชร์ขึ้นสู่โลกออนไลน์ได้ จึงทำให้แอปพลิเคชันนี้เป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันยอดนิยมบนแอปสโตร์ ด้วยยอดจำนวนดาวน์โหลดในขณะนี้ถึง 7.5 ล้านครั้ง สำหรับดีลการซื้อระหว่างเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมเมื่อต้นเดือนเมษายนที่ ผ่านมา ด้วยมูลค่า 1 พันล้านเหรียญนั้น สำนักข่าวนิวยอร์กไทมส์ ได้รายงานว่า ก่อนหน้านั้นทวิตเตอร์เองก็เคยยื่นข้อเสนอจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นเจ้าของและ กรรมสิทธิ์ต่างๆ ของอินสตาแกรมมาก่อนแล้ว แต่ทว่าการเจรจาไม่ลุล่วง จนกระทั่งเป็นเฟซบุ๊กที่เข้าซื้อกิจการได้สำเร็จตามที่เป็นข่าว Company Related Link : Twitter