ข่าวใหญ่ของโลกไอทีประจำสัปดาห์นี้ คงหนีไม่พ้นการเปิดตัว iPad Mini ของแอปเปิลนั่นเองครับ ในแง่เทคนิคแล้ว iPad Mini แทบไม่ต่างอะไรกับ iPad ขนาดปกติ ทำงานได้เหมือนกันแทบทุกประการ ใช้แอพร่วมกันได้ทั้งหมด จุดที่เปลี่ยนแปลงคงมีแค่ขนาดที่เล็กลงอีกพอสมควร สะดวกต่อการพกพาอีกมาก นอกจากนี้ราคายังถูกกว่าเดิมไม่น้อย ทำให้ตัดสินใจเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น ในแง่เทคนิคแล้วคงไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นมากนัก เพราะ iPad Mini ไม่มีอะไรใหม่เลย เป็นการลดขนาด-สเปก-ราคาของ iPad ขนาดเดิมลงมาเพื่อเปิดตลาดใหม่ๆ แต่สำหรับผู้บริโภคแล้ว ผมคิดว่านี่เป็นข่าวดีมากๆ ข่าวหนึ่งของวงการไอที ด้วยเหตุผลสองประการ เหตุผล ประการแรก โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าแท็บเล็ตขนาด 10 นิ้วอย่าง iPad นี่ออกจะใหญ่เกินไปเล็กน้อย แน่นอนว่าจอใหญ่สะใจเหมาะแก่การอ่านบทความต่างๆ แต่ในแง่ของการยกด้วยแขนนานๆ เพื่ออ่านหรือการพกพาออกนอกสถานที่ ยังถือว่าใหญ่และหนักเกินไป ขนาดที่ผมคิดว่าเหมาะสมกับการใช้งานในบ้านคือ 9 นิ้ว (ซัมซุงทำตลาด Galaxy Tab 8.9) แต่คิดว่าแท็บเล็ตขนาดนี้ต้องแข่งกับแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้วและ 10 นิ้ว คงยืนระยะยาวได้ยาก ส่วนขนาดสำหรับการพกพาออกนอกสถานที่คงหนีไม่พ้นแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้วซึ่งมีผลิตภัณฑ์วางขายในตลาดมากมาย ดังนั้นการที่แอปเปิลออกแท็บเล็ต ขนาด 7 นิ้วกว่าๆ มาบ้าง ย่อมทำให้คนที่อยากใช้งานแพลตฟอร์ม iOS ของแอปเปิล (ซึ่งมีแอพและเนื้อหาให้เลือกมากมาย) สามารถเลือกซื้อแท็บเล็ตที่พกพาสะดวกกว่าเดิม ถึงแม้ สตีฟ จ็อบส์ เคยพูดเอาไว้ว่า แท็บเล็ต ขนาด 7 นิ้ว ไม่มีอนาคต แต่ตอนนี้สถานการณ์คงพิสูจน์ชัดแล้วว่า ตลาดนี้มีคนต้องการอยู่มาก การที่แอปเปิลออก iPad Mini มาขายเป็นหลักฐานยืนยันที่ดีที่สุดที่พิสูจน์ว่า สตีฟ จ็อบส์ คิดผิด (ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะเขาก็คิดถูกมาหลายเรื่องมากๆ แล้ว) เหตุผลประการที่สอง การแข่งขันในตลาดเป็นเรื่องดีเสมอครับ แท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว มีผู้เล่นรายใหญ่คือ ซัมซุง ที่มีสินค้าขนาดใกล้เคียงกันหลายรุ่น แต่นอกจากนี้ ยังมีผู้ผลิตรายอื่นๆ อีกเยอะ เช่น ในต่างประเทศมีแท็บเล็ต Kindle Fire ของอเมซอน (ยังไม่มีขายในไทย) หรือกูเกิลก็เพิ่งออกแท็บเล็ตของตัวเอง ชื่อ Nexus 7 ที่ให้เอซุสผลิตให้ นอกจากนี้ ยังมีแท็บเล็ตแบรนด์ไม่ดังจากประเทศจีนและอินเดียอีกหลากหลายยี่ห้อ iPad Mini ที่ตั้งราคาสูงกว่าแท็บเล็ตฝั่งแอนดรอยด์อยู่เล็กน้อย จะช่วยให้แท็บเล็ตแอนดรอยด์ต้องพัฒนาตัวเองมากขึ้น จะเน้นจุดขายเรื่องราคาถูกอย่างเดียวเหมือนที่เคยทำคงไม่ได้แล้ว เนื่องจากผู้บริโภคเพิ่มเงินอีกไม่มากนักก็ได้ iPad Mini แล้ว ค่ายแอนดรอยด์ทั้งหลายจึงต้องปรับปรุงคุณภาพทั้งในแง่งานประกอบ วัสดุ ชิ้นส่วน รวมไปถึงซอฟต์แวร์และปริมาณแอพที่มีคุณภาพมากขึ้น ดังนั้น ไม่ว่าใครจะขายดีกว่ากัน ผู้บริโภคที่ต้องการซื้อแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้วนิดๆ ย่อมได้ประโยชน์จากการแข่งขันอย่างแน่นอน จุดสังเกตอีกข้อก็คือ แอปเปิลปล่อยช่องว่างของแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว มานานเกือบ 3 ปี เปิดโอกาสให้คู่แข่งรายอื่นๆ กอบโกยตลาดนี้มานาน ตอนนี้แอปเปิลเองก็เริ่มตันๆ ในตลาดบน ทั้งมุมของมือถือและแท็บเล็ต จึงได้เวลาที่แอปเปิลจะเข้ามาบุกตลาดระดับกลางสักที iPad Mini ถือเป็นหัวหอกที่แอปเปิลเข้ามาต่อสู้ในตลาดนี้ และมีความเป็นไปได้สูงว่าเราจะเห็น iPhone Lite รุ่นราคาถูกลงมาอีกหน่อย (อาจจะสัก 15,000 บาท) ตามเข้ามาในปีหน้าครับ. [code] ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/tech/301069 [/code]