ทำธุรกิจกาแฟ แต่ไม่รู้จักประเภทของกาแฟ ? (หรือใจจริงแค่กวนตีนลูกน้อง?)
อันนี้ ผมจะมาโพสบ่น หรือออกจะเผาเจ้านายด้วยซ้ำ จากประสบการณ์ที่ได้ทำงานมา ต้องขออภัยที่มีการเสียดสีบ้าง แต่อยากให้เจ้าของธุรกิจได้เข้าใจสิ่งที่ตัวเองได้ลงทุนไปจริงๆ
คือ ผมได้ทำงานที่โรงแรมแห่งหนึ่ง โดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะพี่แกทำธุรกิจหลายตัว “มากเกินไป” (เดี๋ยวผมจะมาเล่าต่ออีก) ซึ่งมากเกินไปนั้น แกก็ได้ทำธุรกิจร้านกาแฟด้วย แต่อดไม่ได้ที่ต้องเห็นแกมากินกาแฟที่โรงแรมที่ผมอยู่ทุกเช้าเสมอ (จริงๆผมต้องทำงานอ๊อฟฟิศที่ไว้สต๊อกของร้านกาแฟและของโรงแรม และไม่รู้ว่าเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจหลายอย่างด้วย เช่น โรงแรม แต่เขาเน้นเรื่องร้านกาแฟของเขามาก โดยงานที่ว่า คือ เช็คว่ามีของเท่าไหร่ ต้องสั่งเพิ่มไหม ส่งกี่โมง เริ่มงาน 8 โมง แต่เขาให้มาทำที่โรงแรม และต้องมาก่อนตี 5 แทน) ซึ่งบ้านที่พี่แกอยู่ก็เป็นบ้านหลังใหญ่ มีคนใช้ และแน่นอน “มีเครื่องชงกาแฟด้วย” อันนี้รู้ทีหลัง
ด้วยความที่ไม่เข้าใจว่า ที่บ้านเขาก็มีเครื่องชงกาแฟ แถมมีร้านกาแฟเป็นของตนเอง แล้วทำไมต้องมากินที่กาแฟที่โรงแรมด้วย มาก็ไม่ได้เช้า มาทีก็ 8 โมงกว่าจนเกือบ 9 โมงกว่าด้วยซ้ำ ซึ่งในมุมมองของคนทำงานระดับเจ้านาย เรียกว่า มาสายได้เลย แล้วทำไมถึงฟันธงว่ามาสายได้ล่ะ เพราะคนปกติ เขาคงไม่แวะกินกาแฟหลายที่ในช่วงเวลาไม่ต่างกันหรอกมั้ง ผมเลยทึกทักเอาเองว่า เขาต้องมาที่โรงแรมนี่เป็นที่แรก ต่อให้ตื่นสาย ก็น่าจะกินที่บ้าน ไปก็กินที่ร้านกาแฟจะดีกว่าไหม แล้วจากนั้นเขาจะไปไหนต่อ ผมก็ไม่ทราบละ
ขอเท้าความเรื่องร้านกาแฟ แน่นอน ตอนที่ผมไปสมัครงาน เขาจะให้ผมดูแลร้านกาแฟของแกนั้นแหล่ะ โดยเขาให้คู่มือเป็นสูตรการชงกาแฟ การใช้เครื่องชงกาแฟ ให้ไปอ่านมา เชื่อไหม ผมอ่านมันทั้งคืน แน่นอนว่า ผมจำรายละเอียดได้ไม่หมดหรอก แต่อย่างน้อยก็มีความรู้ด้านกาแฟมากขึ้น จริงๆ ก็พอแยกประเภทเป็นอยู่ แต่แค่เขาใช้สูตรชงแบบไหน ส่วนผสมเจ้าไหน อุณหภูมิของน้ำ แค่นั้น
ตอนแรกผมอยู่อ๊อฟฟิศแหล่ะ เชื่อไหม ผมทำงานที่อ๊อฟฟิศแค่ 6 วัน แล้ว โดนสั่งไปที่ร้านกาแฟเลย แต่อยู่ได้ไม่ถึง 2 วัน ต้องมาอยู่ที่โรงแรมแทน แล้วจะให้ตูอ่านคู่มือทำกาแฟทำไมวะ แล้วทำอยู่ที่โรงแรม ไม่ได้เกี่ยวกับกาแฟด้วยนะ เกี่ยวกับโน้น เฝ้าห้องครัวว่า คนครัวทำอาหารเสร็จรึยัง (ถึงต้องให้มาตี 5 ไง) ดูว่าแม่บ้านทำความสะอาดดีไหม ดูระบบไฟ ระบบแอร์ ระบบน้ำ ซึ่งแน่นอนว่าได้แค่ดู แต่ถ้าแก้ปัญหา เราทำเองไม่ได้ครับ เพราะอย่างที่บอก มาจับผลัดจับผลูมาทำโรงแรมซึ่งไม่มีความรู้ระบบของโรงแรมอะไรเลย
แล้วที่โรงแรมที่เครื่องชงกาแฟไหม มีครับ แต่เป็นแบบอัตโนมัติ คือ ใส่แค่เมล็ดกาแฟดุ้นๆ แล้วก็ใส่นม ใส่น้ำในเครื่อง แล้วเครื่องจะมีปุ่มให้เลือกว่า อยากได้กาแฟแบบไหน อารมณ์ตู้กดกาแฟหยอดเหรียญเล้ย แล้วเครื่องนี้ ถ้าอยากกินกาแฟ มีหลายอย่างนะ ได้แก่ เอสเปรสโซ่ อเมริกาโน่ ลาเต้ และ คาปูชิโน่ ปกติ ผมจะเห็นเจ้านายผม จะกดกาแฟกินเอง(แต่น้อยครั้งมาก) ไม่ก็ให้พ่อครัวทำให้ มีอยู่วันหนึ่ง เขาสั่งให้ผมเอากาแฟให้แก เขาพูดว่า “ขอกาแฟแก้วนึง” ผมเลยต้องถามกลับเพราะอยากรู้ชนิด “รับกาแฟแบบไหนครับ” เขาตอบกลับ
“แบล็กคอฟฟี่”
โอ้ พระเจ้า คือ คุณมีร้านกาแฟเป็นของตัวเอง แต่คุณบอกว่า อยากได้ “แบล็กคอฟฟี่” และแน่นอน ผมอึ้งไปสักพักและคิดในใจในสมองของผม แบล็กคอฟฟี่ ก็คือ เอสเปรสโซ่ เพราะมันคือ กาแฟดำอย่างแท้จริง จากนั้น ผมก็เดินไปที่เครื่องชงกาแฟ แล้วผมก็บอกพ่อครัวว่า นายจะกินกาแฟ พ่อครัวบอกผมว่า “กด อเมริกาโน่นะ” ผมนี่กลับอึ้งกลับ คือ ใช่ อเมริกาโน่ มันก็กาแฟดำอีกชนิดหนึ่ง แต่มันต่างที่ปริมาณน้ำ มันจางกว่านะ ดีนะที่ผมไม่กด เอสเปรสโซ่ ไปให้แก และจะอึ้งหนักยิ่งกว่า คือ จริงๆ เขากิน ลาเต้ไม่ก็คาปูชิโน่ แล้วใส่น้ำตาลเยอะๆ แค่ปากบอก “แบล็กคอฟฟี่”
รู้ไหม แค่ประโยคเดียว ทำให้ไม่ไว้ใจเจ้านายคนนั้นอีกเลย ทั้งๆที่แกเป็นเจ้าของร้านกาแฟ แต่กลับมากินที่โรงแรม ซึ่งคุณภาพของการชง(ด้วยเครื่อง) ที่ร้านกาแฟมันย่อมดีกว่าไหม แถมเขาให้ผมอ่านคู่มือของการทำร้านกาแฟ แต่ไม่ให้ผมทำเกี่ยวกับร้านกาแฟแล้ว แถมมาสั่งกาแฟแบบนี้ด้วย อย่างที่ผมได้จั่วหัว เขาอาจจะลองใจผมอยู่ หรือแค่กวนเล่นๆ แต่จากการทำงานเพียงไม่ถึงเดือน ทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า เจ้านายมีความรู้ด้านกาแฟจริงหรือไม่ หรือแค่อยากเปิดร้านกาแฟแล้วก็จ้างคนอื่นทำ ซึ่งถามว่าซีเรียสไหม ถ้าคุณอยากให้ร้านประสบความสำเร็จ ถ้าคุณไม่มีความรู้ด้านนั้นเลย ถ้าเกิดมีปัญหา อย่างด้านคุณภาพ คุณจะรู้ได้ด้วยตนเองไหม เช่น กลิ่นเพี้ยน รสเพี้ยน เพี้ยนเพราะอะไร เครื่องมีรอยไหม้หรือไม่ หรือเมล็ดกาแฟเก่าไป หรือ ใช้น้ำที่ไม่สะอาด เป็นต้น
ถ้าพูดถึงลูกค้า แน่นอน ลิ้นใครลิ้นมัน บางคนชอบหวาน บางคนชอบหอม บางคนชอบราคาถูก แต่มาตรฐานของร้านคุณ คุณมีรึยัง ถ้าวันใดวันนึงไม่มีพนักงานชงกาแฟให้คุณ คุณต้องเลือกระหว่าง ต้องมาชงเอง หรือ ปิดร้านจนกว่าจะหาคนชงใหม่ได้
ในฐานะลูกจ้าง ผมยังมองได้ในฐานะนักลงทุนหรือเจ้าของกิจการได้เลยว่า ถ้าคุณไม่มีความรู้ด้านนั้นจริงๆ ละก็ ก็เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ถ้าเป็นร้านกาแฟ คงเป็นการบดกาแฟละลายแม่น้ำแทน