ประเทศไทยพบแร่ แร่ลิเทียม สูงสุดเป็นอันดับที่ 3 ของโลก
ประเทศไทยได้พบแหล่งแร่ลิเทียมขนาดใหญ่มากถึง 14.8 ล้านตัน ซึ่งทำให้ไทยมีปริมาณแร่ลิเทียมเป็นอันดับที่ 3 ของโลก รองจากโบลิเวียและอาร์เจนตินา. การค้นพบนี้ถือเป็นข่าวดีที่มีผลดีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทย โดยเฉพาะการผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ใช้แร่ลิเทียมเป็นวัตถุดิบสำคัญ.
นอกจากนี้ การค้นพบแร่ลิเทียมและโซเดียมในปริมาณมากนี้ยังเป็นโอกาสที่จะช่วยให้ไทยลดการพึ่งพาการนำเข้าแร่จากต่างประเทศ และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันกับประเทศอื่นในการผลิตแบตเตอรี่ EV รวมถึงดึงดูดนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศมาตั้งโรงงานผลิตในไทย.
ในที่สุด การค้นพบนี้ยังส่งผลให้ความต้องการแร่ลิเทียมทั่วโลกเพิ่มขึ้น เนื่องจากตลาดยานยนต์ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และการค้นพบแหล่งแร่ที่สำคัญนี้ทำให้ไทยมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางและฐานการผลิตแบตเตอรี่ EV ในอนาคต.
แร่ลิเทียมในไทย ทำให้หุ้นบริษัทไหนพุ่งและได้ประโยชน์
หลังจากที่มีการค้นพบแหล่งแร่ลิเทียมในประเทศไทย หุ้นของบริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าได้ปรับตัวขึ้น บริษัทที่ได้รับผลกระทบในทางบวก ได้แก่ พลังงานบริสุทธิ์ (EA), บ้านปู (BANPU), บีซีพีจี (BCPG), ปตท. (PTT), และเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (DELTA). การค้นพบแหล่งแร่ลิเทียมช่วยลดต้นทุนในการผลิตเนื่องจากไม่ต้องนำเข้าแร่จากต่างประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่ออุตสาหกรรม EV ทั้งระบบ.
บริษัทรถ EV ที่ลงทุนในประเทศไทยและผลิตในประเทศไทยมีอะไรบ้าง
บริษัทจากจีนเป็นกลุ่มหลักที่ลงทุนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทย โดยมีการลงทุนจากหลายบริษัทรวมถึง:
- Great Wall Motor: บริษัทนี้ได้ซื้อโรงงานผลิตรถยนต์ของ General Motors และมีแผนผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่น Ora Good Cat ในปีหน้า และมีแผนลงทุนรวมทั้งหมด 640 ล้านดอลลาร์ในไทย.
- BYD: กำลังก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ EV ที่ระยอง ด้วยงบประมาณ 17.9 พันล้านบาท โรงงานนี้คาดว่าจะเสร็จในกลางปี 2024 และมีกำลังการผลิตรถยนต์ EV ได้ปีละ 150,000 คัน.
- PTT และ Foxconn: PTT ร่วมทุนกับ Foxconn ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และมีแผนเริ่มส่งมอบคันแรกในปี 2024.
- Changan: ได้ลงทุน 9.8 พันล้านบาทในไทย โดยมีแผนผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวาทั้ง BEV, PHEV, REEV และแบตเตอรี่ ด้วยกำลังการผลิต 100,000 คันต่อปี.
- GAC Aion: วางแผนลงทุนกว่า 6,400 ล้านบาทในไทย และ Chery Automobile แสดงความสนใจลงทุนในไทยด้วย.
การลงทุนเหล่านี้แสดงถึงความสนใจของบริษัทรถยนต์จากจีนในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของไทย และยังช่วยสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยให้เติบโตอย่างรวดเร็ว.