เสียวหมี่ คือบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจากจีนที่สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์คุณภาพตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบออกมาให้ชาวโลกได้ใช้งานมาเป็นเวลายาวนาน และมีการยกระดับคุณภาพมาตรฐานของผลิตภัณฑ์อย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งนั่นก็ทำให้ล่าสุด Xiaomi ขยับอันดับขึ้นไปอยู่ในท็อป 50 บริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดของการจัดอันดับโดย Boston Consulting แล้ว ซึ่งรายละเอียดในเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เรามาติดตามอ่านกันเลย
สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้เป็นดังนี้
- ล่าสุด บริษัท Boston Consulting Group (BCG) ได้จัดอันดับให้เสียวหมี่ขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 29 จากการจัดอันดับ “50 บริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดแห่งปี 2023” (50 Most Innovative Companies of 2023) ซึ่งขยับสูงขึ้นกว่าปีที่แล้วสองอันดับ
-
การจัดอันดับนี้มาจากการที่เสียวหมี่ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมโดยมีการทุ่มงบการลงทุนรวมถึงการใช้ผู้มีความรู้ความสามารถจำนวนมาก และได้เปลี่ยนการลงทุนนี้ให้เป็นผลลัพธ์อันน่าทึ่ง ในไตรมาสแรกของปีนี้ ค่าใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนา (R&D) ของเสียวหมี่เพิ่มขึ้น 17.7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 4.1 พันล้านหยวน
-
โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 จำนวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนานั้นมีมากกว่า 16,500 คน ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่า 50% ของพนักงานเสียวหมี่ทั้งหมด ความพยายามในการวิจัยและพัฒนาของเสียวหมี่นั้นทำให้บริษัทมีสิทธิบัตรกว่า 32,000 ฉบับทั่วโลก ณ วันที่ 31 มีนาคม 2566 โดยคาดการณ์ว่างบการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาทั้งหมดในปี 2566 จะเกิน 2 หมื่นล้านหยวน
-
เสียวหมี่นั้นเปิดรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างยิ่งยวด ซึ่งรวมไปถึงปัญญาประดิษฐ์ (AI) บริษัทได้ก่อตั้งทีมต้นแบบ AI Lab Foundation (AI Lab Foundation Model team) อย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน และมีพนักงานที่เกี่ยวข้องกับ AI มากกว่า 1,200 คน บริษัทจะยังคงขยายโอกาสและสถานการณ์ให้ผู้ใช้งานได้ใช้งานเทคโนโลยี AI ได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังจะเพิ่มความสามารถทางเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้งและมองหาโอกาสในการร่วมมือกับพันธมิตรต่างๆ ต่อไป
-
การจัดอันดับบริษัทที่มีนวัตกรรมมากที่สุดของ BCG (BCG’s Most Innovative Companies Ranking) อ้างอิงจากการสำรวจผู้บริหารด้านนวัตกรรมระดับโลกมากกว่า 1,000 คน ซึ่งได้ทำการสำรวจความคิดเห็นในเดือนธันวาคม 2565 และมกราคม 2566 การสำรวจนี้ได้ทำการประเมินประสิทธิภาพของบริษัทในสี่ประเภท ได้แก่ การแบ่งปันความคิดอย่างเป็นสากล (global mindshare) มุมมองจากอุตสาหกรรมเดียวกัน (industry peer view) การปฏิรูปอุตสาหกรรม (industry disruption) และการสร้างมูลค่า (value creation)
-
BCG มีการเผยแพร่รายงานนวัตกรรมประจำปีตั้งแต่ปี 2546 บริษัทอื่นๆ ที่อยู่ในรายชื่อในปี 2566 ได้แก่ Amazon, Alphabet, Microsoft, Siemens, Pfizer, SpaceX, Nike, IBM เป็นต้น
-
เสียวหมี่ถือว่าปี 2566 เป็นปีที่สำคัญในการเร่งการเติบโตของเสียวหมี่เป็นอย่างมาก บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการเดินหน้าไปสู่กลยุทธ์ใหม่ทางธุรกิจ โดยมุ่งเน้นที่การพัฒนาที่มีคุณภาพสูง ควบคู่ไปกับการแสวงหาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดยั้ง และพันธกิจเพื่อให้ทุกคนในโลกมีชีวิตที่ดีขึ้นผ่านนวัตกรรมเทคโนโลยี
และนี่ก็คืออีกหนึ่งความสำเร็จจากเสียวหมี่ที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่านี่จะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับทุกคน เพราะเราเชื่อว่าเรื่องราวความสำเร็จของเสียวหมี่ น่าจะสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาองค์กรให้กับนักธุรกิจรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี