ใครที่กลัวเข็มต้องมารวมกันทางนี้ เพราะครั้งนี้เรามีข่าวดีจะแจ้งให้ทราบว่า ตอนนี้ ทีมนักวิจัยจาก Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT สามารถพัฒนาแผ่นแปะสำหรับผลักยาเข้าสู่ร่างกายผู้ใช้งานผ่านผิวหนังด้วยการใช้คลื่นอัลตราโซนิก (Ultrasonic Wave) แทนการใช้เข็มขนาดเล็กแล้ว ซึ่งรายละเอียดเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร เรามาติดตามอ่านกันเลย
สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ดังนี้
- นวัตกรรมแผ่นแปะนี้ อาศัยหลักการทำงานเดียวกันกับแผ่นแปะแบบเข็มขนาดเล็กโดยแผ่นแปะดังกล่าวมีลักษณะเป็นแผ่นซิลิโคนใสที่มีความกลมและแบนสามารถแปะติดกับผิวหนังได้โดยไม่ต้องอาศัยเทปกาว
-
แผ่นซิลิโคนนี้ทำมาจากซิลิโคนชนิดหนึ่งที่เรียกว่าโพลีไดเมทิลไซล๊อกเซน (Polydimethylsiloxane) อันเป็นวัสดุที่มักถูกนำไปใช้ทำเป็นเครื่องสำอางและสารหล่อลื่น
-
นอกจากนี้เรายังสามารถมองเห็นฉนวนทองแดงที่เชื่อมเซนเซอร์จำนวน 4 ตัว ที่ถูกฝังอยู่ในแผ่นแปะ โดยผิวด้านบนของบริเวณที่มีการฝังเซนเซอร์มีลักษณะเป็นหลุมคล้ายถ้วยขนาดเล็ก ใช้สำหรับหยดตัวยาที่อยู่ในรูปของเหลวลงไป ซึ่งตัวยาจะยึดเกาะกับแผ่นแปะด้วยแรงตึงผิว
-
สำหรับการใช้งาน เมื่อแผ่นแปะถูกนำมาแปะติดกับผิวหนัง ก็จะก่อให้เกิดแรงกด ซึ่งเป็นการกระตุ้นให้เซนเซอร์ทำงานและทำให้เกิดคลื่นอัลตราโซนิกที่มีความถี่มากกว่า 20 กิโลเฮิร์ต ซึ่งเป็นช่วงคลื่นที่หูของมนุษย์ไม่ได้ยิน โดยคลื่นอัลตราโซนิกจะทำให้ตัวยาที่อยู่ในรูปของเหลวกลายเป็นฟองขนาดเล็กและซึมผ่านชั้นผิวหนังของเราได้ในที่สุด
-
ในการทดลองที่ผ่านมา ทีมนักวิจัยได้ทดลองใช้แผ่นแปะในการนำส่งตัวยากับผิวหนังของหมู โดยตัวยาดังกล่าวคือไนอาซินาไมด์ (Niacinamide) ซึ่งเป็นวิตามินบีรูปแบบหนึ่งที่มักนำมาใช้เป็นยาและอาหารเสริม
-
ผลการทดลองพบว่าในระยะเวลาเพียง 30 นาที แผ่นแปะดังกล่าวสามารถนำส่งตัวยาเข้ากับผิวหนังของหมูได้ในปริมาณเทียบเท่ากับการใช้แผ่นแปะแบบเข็มขนาดเล็กเป็นเวลา 6 ชั่วโมง
-
ทีมวิจัยตั้งเป้าว่าในอนาคตจะทดลองการทำงานของแผ่นแปะกับตัวยาอื่น ๆ เช่น ยาแก้ปวดและฮอร์โมนบางชนิด รวมไปถึงการพัฒนาแผ่นแปะให้สามารถนำมาใช้ทดลองในมนุษย์ได้
และนี่ก็คือข่าวอีกหนึ่งข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจในแวดวงวิทยาศาสตร์การแพทย์ที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่าเป็นที่ชื่นชอบถูกใจของคนกลัวเข็มทุกคน อย่างไรก็ตามเรายังไม่สามารถฟันธงได้ว่านวัตกรรมนี้จะถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายได้เมื่อไหร่ ดังนั้นหากมีความเคลื่อนไหวอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกเราจะรีบมาอัพเดทให้ทุกท่านได้ทราบก่อนใครทันที