นับวันปัญหาสิ่งแวดล้อมของโลกเรายิ่งลุกลามบานปลายขึ้นทุกที จนไม่รู้ว่ามนุษยชาติจะมีเวลาแก้ไขปัญหานี้ได้ทันการณ์หรือไม่ จนกว่ามันจะสายเกินแก้ แล้วคุณรู้หรือไม่ว่าตอนนี้ มนุษยชาติเหลือเวลาอีกไม่เกิน 5 ปี โลกจะร้อนขึ้น 1.5 องศาเซลเซียสแล้ว ซึ่งนับเป็นการพุ่งพรวดของอุณหภูมิของโลกขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ แล้วมันจะส่งผลกระทบต่อเราอย่างไร ใครอยากรู้ต้องตามมาหาคำตอบกันที่ด้านล่างนี้เลย
สรุปข้อมูลและรายละเอียดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ได้ดังนี้
- ล่าสุดองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกขององค์การสหประชาชาติ (UN) ชี้ว่าโลกจะร้อนขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส ภายในระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี และปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Niño) จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งจะทำให้สภาพอากาศพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ
-
โดยปรากฏการณ์เอลนีโญหมายถึงปรากฏการณ์ที่กระแสลมอ่อนเปลี่ยนทิศทางพัดจากด้านตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกไปด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปฟิซิก ทำให้กระแสน้ำอุ่นไหลไปยังทวีปอเมริกาใต้แทน ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศในทวีปอเมริกาใต้มีฝนตกชุก ในขณะที่พื้นที่อื่น ๆ เช่น ออสเตรเลีย, อินโดนีเซีย, จีนตอนเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของบราซิลจะประสบกับภัยแล้ง
-
นักวิทยาศาสตร์ได้เตือนว่าเมื่ออุณหภูมิของโลกข้ามเกณฑ์ 1.5 องศาเซลเซียส สภาพอากาศของโลกจะไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้และจะก่อให้เกิดภัยทางธรรมชาติมากมาย เช่น การพังทลายของแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์และแอนตาร์กติกตะวันตก, คลื่นความร้อนสูงและสภาพอากาศรุนแรงในพื้นที่ส่วนใหญ่
-
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ยังไม่รู้วิธีการว่าจะต้านทานการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกในแบบนี้ได้อย่างไร ตอนนี้มนุษย์ก็ได้เพียงแต่ช่วยกันชะลอความเลวร้ายของสภาพภูมิอากาศที่จะเกิดขึ้นด้วยการช่วยกันคนละไม้ละมือในการรักษาสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการตัดไม้ทำลายป่า ช่วยกันคืนสภาพป่าที่สมบูรณ์ พร้อมกับเตรียมปรับตัวรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนและรุนแรงหนักหน่วงขึ้นทุกที
และนี่ก็คือข่าวความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจด้านภูมิอากาศที่เราอยากแจ้งให้เพื่อนๆ ได้ทราบในครั้งนี้ ก็หวังว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับทุกคน เมื่อได้ทราบแล้วก็เตรียมตัวกันไว้ให้ดีนะครับ