เช้านี้ค่าเงินบาททำเอาหลายคนอึ้ง! เพราะเปิดตลาดมาอย่างแข็งโป๊กแตะที่ 32.60 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากเมื่อวานที่ปิดตลาดที่ 32.85 บาทต่อดอลลาร์ เรียกได้ว่าขยับขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเมษายนที่ผ่านมา ที่ตอนนั้นอ่อนค่าสุดถึง 37.25 บาทต่อดอลลาร์ ถ้านับกันจริงๆ นี่คือการแข็งค่าขึ้นถึง 12.4% ในระยะเวลาเพียง 5 เดือนเท่านั้น
ผู้เชี่ยวชาญจาก Krungthai GLOBAL MARKETS อย่างคุณพูน พานิชพิบูลย์ ออกมาเผยว่า การแข็งค่าครั้งนี้มาจากหลายปัจจัย รวมถึงสหรัฐฯ ที่ยังคงมีปัญหาเศรษฐกิจที่แย่กว่าคาดการณ์ไว้ และความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด อาจจะต้องเร่งลดดอกเบี้ยเร็วขึ้นตามที่ระบุไว้ใน Dot Plot ส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และแน่นอนว่ากระทบต่อการแข็งค่าของเงินบาททันที
ไม่เพียงเท่านี้ การแข็งค่าของเงินยูโรและเงินเยนญี่ปุ่นก็มีส่วนทำให้เงินดอลลาร์ถูกกดดันหนักขึ้นอีกด้วย โดยเศรษฐกิจจีนที่กำลังฟื้นตัวและมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหญ่ๆ ออกมา ยิ่งช่วยผลักดันให้บรรดาสกุลเงินในเอเชีย รวมถึงเงินบาท แข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ การที่ราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมให้เงินบาทแข็งค่ามากขึ้น เนื่องจากโฟลว์การขายทองคำเพื่อทำกำไรเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในภาพรวม การแข็งค่าของเงินบาทในวันนี้ยังมีโอกาสแข็งค่าขึ้นต่อได้ โดยมองกรอบการเคลื่อนไหวอยู่ที่ 32.50-32.80 บาทต่อดอลลาร์ หากสามารถแข็งค่าทะลุโซนนี้ไปได้ ก็อาจได้เห็นเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องไปยังระดับ 32.00-32.25 บาทต่อดอลลาร์ได้เลยทีเดียว ผู้เล่นในตลาดบางส่วนที่เคยคาดการณ์ว่าการแข็งค่าของเงินบาทควรจะหยุดลงแล้ว อาจต้องกลับมาปรับสถานะหรือ Cut Loss สำหรับสถานะ Short THB เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้
การแข็งค่าของเงินบาทครั้งนี้น่าสนใจเป็นอย่างมาก เราคงต้องจับตาดูต่อไปว่า เศรษฐกิจโลกและดัชนีทางเศรษฐกิจจากสหรัฐฯ จะออกมาเป็นอย่างไร และจะส่งผลกระทบอะไรบ้างต่อทิศทางของค่าเงินบาทในอนาคต แต่สำหรับตอนนี้ ค่าเงินบาทยังคงเป็นที่สนใจอย่างมากในตลาดการเงินทั่วโลก