สื่อต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่า ทั้งหมดนี้สะท้อนให้โลกเห็น “ภาวะหลุดโผสมาร์ทโฟนแห่งยุค” ของแบล็กเบอร์รี หรือบีบีในวันนี้ ตกที่นั่ง “อยู่นอกสายตา” เรียบร้อยโรงเรียนซีอีโอสาว สำนักข่าวบิสิเนสอินไซเดอร์ (Business Insider) รายงานข่าวนี้จากบันทึกภายในที่ซีอีโอยาฮูคนล่าสุดส่งถึงพนักงานเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา โดยในบันทึกระบุว่า พนักงานยาฮูสามารถเลือกรับสมาร์ทโฟนจาก Apple, Samsung, Nokia หรือ HTC ได้ แต่ไม่มีรายชื่อ RIM ซึ่งเป็นต้นสังกัดของแบล็กเบอร์รี สมาร์ทโฟนที่ยาฮูเชื่อว่าใหม่และร้อนแรงที่สุดในตลาดโลกเวลานี้ ได้แก่ iPhone 5, Samsung Galaxy S3, HTC Evo 4G LTE, HTC One X และ Nokia Lumia 920 ทั้งหมดนี้เป็นตัวเลือกที่พนักงานยาฮูสามารถแจ้งความต้องการให้บริษัททราบได้ว่าสนใจใช้งานสมาร์ทโฟนรุ่นใดในการทำงาน ซึ่งยาฮูจะเป็นผู้ชำระค่าบริการแพกเกจโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตตามเงื่อนไข การไม่มีรายชื่อสมาร์ทโฟนแบล็กเบอร์รีแม้แต่รุ่นเดียวสะท้อนว่า อดีตสมาร์ทโฟนที่เคยครองแชมป์อุปกรณ์ที่บริษัททั่วโลกไว้วางใจนั้นตกอันดับแล้วในขณะนี้ โดยเฉพาะในสายตายาฮูซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่ในโลกอินเทอร์เน็ตปัจจุบัน ทำให้ไม่น่าแปลกใจที่ส่วนแบ่งตลาดของแบล็กเบอร์รีที่ลดลงต่อเนื่องโดยเฉพาะในตลาดองค์กรธุรกิจ รายชื่อสมาร์ทโฟนที่ซีอีโอยาฮูเลือกเป็นคอร์ปอเรตโฟนนั้นมีนัยสำคัญ เพราะซีอีโอยาฮูอย่างเมเยอร์ซึ่งเป็นอดีตผู้บริหารกูเกิลมาเกือบ 10 ปีนั้นได้ชื่อว่าเป็นผู้บริหารวิสัยทัศน์กว้างไกล จุดที่น่าสนใจคือซีอีโอยาฮูเลือกสมาร์ทโฟนของโนเกีย ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Windows Phone 8 ให้มีจุดยืนที่เหนือกว่าแบล็กเบอร์รี ถือเป็นทิศทางการเปลี่ยนแปลงในตลาดสมาร์ทโฟนที่ชัดเจน สำหรับแบล็กเบอร์รี ข้อมูลระบุว่าสัดส่วนตลาดของ RIM นั้นลดลงจาก 25% ในเดือนกันยายน 2011 เหลือเพียง 1% ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา (จากการสำรวจของ Chitika) อย่างไรก็ตาม เมเยอร์ไม่ได้กล่าวถึงเหตุผลที่มองข้ามแบล็กเบอร์รี โดยระบุในบันทึกของบริษัทว่าการเลือกคอร์ปอเรตโฟนนั้นต้องคำนึงถึงอัตราการใช้งานสมาร์ทโฟนในตลาดโลก เมเยอร์จึงต้องการให้พนักงานยาฮูได้ใช้งานอุปกรณ์แพลตฟอร์มเดียวกับผู้ใช้ เพื่อให้ทีมงานยาฮูสามารถสร้างสรรค์บริการได้ตรงกับที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ต้องการ ..ถือเป็นเหตุผลที่ฉลาดและเหมาะสมจริงๆ..