เอชพีจุดพลุกระตุ้นตลาดศูนย์ข้อมูลคลาวด์คอมพิวติงไทยและเอเชีย แปซิฟิก ด้วยการเสนอโมเดล”เงินผ่อน”ให้สิทธิลูกค้าองค์กรใหญ่แบ่งจ่ายไม่เกิน 36 เดือน หวังสนับสนุนให้มีการสร้างระบบคลาวด์ในภูมิภาคมากขึ้น มั่นใจโมเดลนี้ดึงดูดตลาดทั่วโลกรวมถึงตลาดไทยเนื่องจากองค์กรสามารถรับ ประโยชน์ด้านภาษีและการบริหารสภาพคล่อง ชูธงความครบวงจรและความยืดหยุ่นในการติดตั้งและให้บริการระบบเป็นจุดต่าง เหนือคู่แข่งที่มีบริการคลาวด์เงินผ่อนลักษณะเดียวกัน จิม แจ็กสัน (Jim Jackson) รองประธานฝ่ายกลยุทธ์การตลาด ธุรกิจเครื่องแม่ข่าย ระบบสตอเรจ และเครือข่ายสำหรับองค์กร กล่าวในงานประชุม HP APJ ESSN Cloud & Innovation ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 18-19 ตุลาคมที่ผ่านมา ว่าเอ ชพีได้เริ่มการให้บริการ HP CloudSystem Financing หรือการผ่อนชำระค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนโครงข่ายศูนย์ข้อมูลเก่ามาเป็น เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติงของเอชพีในเมืองไทยแล้ว เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นความต้องการคลาวด์ในไทยอย่างแน่นอน “ไทยเป็นตลาดที่มีแนวโน้มการใช้งานระบบคลาวด์สูงมาก ทั้งภาครัฐ อุตสาหกรรมการผลิต และกลุ่มโทรคมนาคม เอชพีจะรุกทุกกลุ่มพร้อมพันธมิตร เชื่อว่าระบบผ่อนชำระนี้จะดึงดูดลูกค้าในไทยและทั่วโลกได้ดี” คลาวด์หรือ Cloud Computing นั้นเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้หลายเว็บไซต์สามารถเปิดบริการฝากไฟล์ออนไลน์ รวมถึงการทำให้ผู้ให้บริการอีเมลสามารถให้พื้นที่เก็บอีเมลได้ไม่จำกัด สิ่งที่คลาวด์ทำคือการเพิ่มความสามารถให้ศูนย์ข้อมูลที่บริษัทเหล่านี้มี กลายเป็นระบบเสมือนที่สามารถยืดขยายหรือย่อหดตัวได้อย่างอิสระตามความต้อง การที่เปลี่ยนไป ซึ่งเป็นไปตามคุณสมบัติของเมฆบนท้องฟ้าที่สามารถยืดและขยายได้ดี ที่ผ่านมา องค์กรทั่วโลกถูกกดดันว่าจะอยู่รอดได้ก็ต่อเมื่อสามารถบริหารงานอย่างคล่อง ตัว มีจุดแข็งในการแข่งขัน และสามารถตอบความต้องการลูกค้า ทั้งหมดนี้ ระบบศูนย์ข้อมูลดั้งเดิมที่หลายบริษัทเคยใช้งานในยุคก่อนนั้นไม่สามารถทำได้ ทำให้ระบบคลาวด์ที่สามารถตอบความกดดันนี้ได้ถูกมองเป็นเป้าหมายที่องค์กรโลก ต้องพาตัวเองไปให้ถึง “คลาวด์ไม่ใช่สิ่งที่อยู่บนฟ้า แต่เป็นสิ่งที่อยู่ในศูนย์ข้อมูลและพร้อมที่จะขยายตัว ตลาดศูนย์ข้อมูลจะเติบโตมากในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยปีหน้า (2012) จีนจะเป็นตลาดดาต้าเซ็นเตอร์ใหญ่อันดับ 2 ของโลก ขณะที่จำนวนดาต้าเซ็นเตอร์โลกจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเท่าตัวต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2010-2014 ซึ่งตอนนี้ 75% ของดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วเอเชียมีอายุมากกว่า 7 ปี ทั้งหมดนี้ไม่รองรับบริการแนวคิดใหม่ ทำให้องค์กรไอทีต้องคิดและวางกลยุทธ์ดาต้าเซ็นเตอร์ใหม่ นี่จึงเป็นโอกาสของเอชพีในตลาดคลาวด์” อีเจ บอดนาร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดทั่วโลก ธุรกิจที่ปรึกษาเทคโนโลยี เอชพี กล่าว ต้องยอมรับว่า “การผ่อนชำระ” คือรูปแบบที่กำลังมาแรงในการลงทุนด้านไอทีขององค์กรโลก เนื่องจากเอชพีไม่ใช่รายเดียวที่ยอมเปิดช่องให้ลูกค้าองค์กรผ่อนจ่ายเงินค่า ปรึกษา และดูแลการติดตั้งระบบศูนย์ข้อมูล แต่ยังมีคู่แข่งที่ให้บริการเงินผ่อนแบบเดียวกัน จุดนี้เอชพีเชื่อว่าผู้บริโภคจะเลือกเอชพีเพราะความครอบคลุม และปลอดภัยกว่า ทั้งหมดนี้ ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่าเอชพีจะให้ไฟแนนซ์เริ่มที่ 9,500 เหรียญสหรัฐฯต่อเดือน โดยเอชพีเตรียมวงเงินให้สินเชื่อไว้ล่าสุด 2 พันล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลก สนนราคาแล้วแต่ความต้องการของแต่ละบริษัท และจะให้เวลาผ่อนชำระสูงสุด 36 เดือน นอกจากนี้ เอชพียังเชื่อว่าบริษัทไทยจะเลือกการผ่อนชำระมากกว่าการจ่ายเงินก้อนโตเมื่อ ระบบเสร็จ แม้วิธีหลังจะให้ตัวเลขค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าเพราะไม่มีดอกเบี้ย โมเดลคลาวด์เงินผ่อนหรือ HP CloudSystem Financing นี้เป็นเพียงหนึ่งในหลายกลยุทธ์ที่เอชพีพยายามสร้างสรรค์ความง่ายและค่าใช้ จ่ายที่ไม่ไกลเกินเอื้อมแก่ลูกค้าที่ต้องการระบบคลาวด์ โดยยังมีนานาบริการทั้งการปรึกษาและวางแผน, การแจ้งเกิดระบบทรัพยากรของนักพัฒนาคลาวด์ในชื่อ HP AlliaceOne และแผนการสร้างศูนย์สาธิตคลาวด์แห่งใหม่ของเอชพี HP Cloud Centers of Excellence (CCOE) กว่า 100 แห่ง มีกำหนดตั้งในเอเชียแปซิฟิก 50 แห่ง ทั้งหมดเรียกรวมว่า CloudSystem นอกจากบริการที่ปรึกษาซึ่งเอชพีย้ำว่าช่วยให้การออกแบบศูนย์ข้อมูลมี ความเร็วขึ้น 40% เอชพียังเปิดตัว HP VirtualSystem for Microsoft และ HP VirtualSystem for Superdome 2/HP-UX เพื่อให้เซิร์ฟเวอร์สามารถเชื่อมต่อกันข้ามระบบปฏิบัติการและฮาร์ดแวร์ต่าง ค่ายได้จริง ซึ่งทั้งหมดเอชพียืนยันว่าสามารถลดความยุ่งยาก ต้นทุน และความเสี่ยงได้ อย่างไรก็ตาม เอชพีวางแผนจุดพลุให้บริการระบบคลาวด์เงินผ่อนทุกประเทศเอเชียแปซิฟิก (รวมญี่ปุ่น) แต่ในขณะนี้บริการจะยังไม่ครอบคลุมประเทศเวียดนาม เนื่องจากเอชพียังไม่มีศูนย์ข้อมูลที่เวียดนาม แต่คาดว่าเอชพีจะลงมือตามแผนขยายให้คลุมทุกพื้นที่เอเชีย “เพราะเอเชียแปซิฟิกคือตลาดที่มีความพร้อมมากกว่าภูมิภาคใด ในโลก การสำรวจความเห็นของผู้ดูแลระบบไอทีและการลงทุนของบริษัท (CIO และ CTO) โดยบริษัทวิจัยฟอร์เรสเตอร์ พบว่าองค์กรจีนกว่า 58% มีแผนเปลี่ยนศูนย์ข้อมูลมาเป็นคลาวด์ ขณะที่อินเดียมีสัดส่วนรองลงมาเล็กน้อยคือ 56% แต่ถือว่าสูงที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับ 32% ของกลุ่มบริษัทในยุโรป รวมถึง 34% ของสหรัฐฯ” สำหรับประเทศไทย เอชพีไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขประมาณการเติบโตของตลาดคลาวด์ได้ ระบุเพียงว่าตลาดไทยมีแนวโน้มเติบโตในกลุ่มบริการคลาวด์ลับเฉพาะกลุ่มคนใน องค์กร (Private cloud) มากกว่า รองลงมาคือกลุ่มผู้ประกอบการด้านโทรคมนาคมซึ่งเตรียมให้บริการคลาวด์ต่อ สาธารณชน (Public cloud) และกลุ่มผู้ต้องการระบบคลาวด์แบบลูกผสมคือกึ่งปิดกึ่งเปิด (Hybrid) โดยสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทยถูกมองว่าเป็นโอกาสที่เอชพีจะมียอดขายเพิ่ม เช่นเดียวกับวิกฤติเศรษฐกิจที่ทำให้องค์กรต้องรัดเข็มขัดนั้น ก็ถูกมองว่าเป็นโอกาสที่จะทำให้เอชพีมีโอกาสมากขึ้นอีก Company Related Link : HP